ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชน
ภัทรกัป
๑๔๓
ต้องอาศัยมรรคมีองค์ ๘ ตั้งแต่สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ
สัมมาสมาธิ เมื่อมรรคมีองค์ ๘ ประกอบกันถูกส่วน ก็เกิดเป็น
ดวงปฐมมรรค ซึ่งเป็นต้นทางนำไปสู่อายตนนิพพาน
จากนั้นพระพุทธองค์อาศัยใจหยุดนิ่งตามเห็นธรรม
เข้าไปตามลำาดับ ตั้งแต่เห็นดวงธรรมต่างๆ ภายใน เห็นกาย
ในกาย จนเข้าถึงพระธรรมกาย แล้วเข้ากายธรรมในกายธรรม
ตั้งแต่กายธรรมโคตรภู จนกระทั่งเข้าถึงกายธรรมอรหัต ตรัสรู้
เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระสัพพัญญูผู้รู้แจ้งโลก
ทั้งปวง และที่พระพุทธองค์ได้นามว่า สัพพัญญูพุทธเจ้า
เพราะได้บรรลุธรรมกายอรหัตนี่แหละ จึงทำให้มีญาณทัสสนะ
กว้างขวาง รู้เห็นได้ครอบคลุมไปหมด
พระบรมโพธิสัตว์ผู้ได้บรรลุเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้านั้น
ไม่ใช่มีเพียงพระองค์เดียว ๒ พระองค์ ๑๐ พระองค์ หรือ 900
พระองค์เท่านั้น แต่มีเป็นล้านเป็นอสงไขยพระองค์ ท่านจึงใช้
คำว่านับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน ที่ตรัสรู้ไปแล้วมีมากกว่า
เม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้งสี่ แล้วยังมีที่จะลงมาตรัสรู้
อีกนับพระองค์ไม่ถ้วน บางท่านอาจเข้าใจว่า เรามีพระพุทธเจ้า
คือ พระสมณโคดมพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว
มีเยอะแยะมากมาย เฉพาะกับของเรานี้ที่เรียกว่า ภัทรกัป มีถึง