ข้อความต้นฉบับในหน้า
Dsuem ประชาช
อเนกวรรณเทพบุตร
๔๓๕
เมื่อลาสิกขาแล้ว ท่านไม่ได้ประมาทในชีวิตเหมือน
ชาวโลกทั่วไป ยังมีใจรักในการทําความดี ยังพอมีสมณสัญญา
ติดมาบ้างคือ ท่านได้ไปปัดกวาดและดูแลศาสนสมบัติที่ลาน
พระเจดีย์ ได้รักษาศีล ๕ มิให้ขาด มิให้ด่างพร้อยเป็นประจำ
และยังรักษาอุโบสถศีลในวันพระอีกด้วย ท่านมักจะไปฟังธรรม
ที่วัด และเที่ยวชักชวนคนอื่นๆ ให้มาทําบุญตลอดต่อเนื่อง
ต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว
พุทธศาสนิกชนได้ช่วยกันสร้างมหารัตนเจดีย์ เพื่อเป็นที่
ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้า
ท่านไม่มีโอกาสได้ร่วมบุญสร้างรัตนเจดีย์ แต่ก็ยังมีจิตเลื่อมใส
ได้เดินทางไปนมัสการกราบไหว้รัตนเจดีย์ที่คลุมด้วยขายทองคํา
เป็นประจำ เนื่องจากตัวท่านเองเป็นคนยากจนทรัพย์ แต่ไม่จนใจ
ที่จะหาบุญใส่ตัว แม้จะไม่ได้ทําทานอย่างเต็มที่เหมือนคนอื่น
แต่ก็ได้ตั้งกัลยาณจิตชวนคนมาสักการะพระเจดีย์ ด้วยจิตที่
เลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะท่านได้นําหน้าที่ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร
ให้กับสาธุชนที่ยังไม่ศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ให้มาบูชา
มหารัตนเจดีย์ของพระพุทธเจ้า โดยท่านชักชวนด้วยคำพูดง่ายๆ
ว่า “ท่านทั้งหลาย พระพุทธเจ้าเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่