ข้อความต้นฉบับในหน้า
กำเนิดสุริยคราส
๓๕๔
พระบรมศาสดาจึงทรงมีพุทธฎีกาว่า “ดูก่อนอสุรินทร์
เมื่อตถาคตบำเพ็ญบารมีเพื่อตรัสรู้โปรดเวไนยสัตว์ทั้งปวงอยู่นั้น
จะได้ก้มหน้าย่อท้อต่อความลำบากที่จะบำเพ็ญบารมีก็หามิได้
ตถาคตตั้งใจบำเพ็ญมิได้ย่อท้อต่ออุปสรรค แม้จักแสนยากเพียงไร
ก็มิได้ก้มหน้าทอดอาลัยเลย เพราะฉะนั้น บุคคลที่ปรารถนา
จะแลดูตถาคต แม้จะมีรูปกายใหญ่โตเพียงไร จะต้องก้มหน้าลง
ดูเหมือนอย่างท่านคิด ก็หาไม่”
เมื่อพระพุทธองค์ทรงมีพระพุทธฎีกาตรัสฉะนี้แล้ว
ก็โปรดประทานพระธรรมเทศนาแก่จอมอสูร ซึ่งทำให้จอมอสูร
รู้สึกตื้นตันไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธาเปี่ยมล้น ได้เปล่งคำ
นมัสการว่า “นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
หลังจากนั้นก็ได้กราบทูลลา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อสุรินทราหูก็
เป็นผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา แม้จะเป็นจอมอสูรที่ไม่เกรง
กลัวใคร แต่จะเกรงพระบารมีพระพุทธเจ้า เพียงพระองค์เดียว
เท่านั้น
*ในสมัยหนึ่ง อสุรินทราหูเห็นจันทะและสุริยเทพบุตร
ส่องสว่างอยู่ตามปกติ เกิดความอิจฉา จึงเข้าสู่วิถีโคจรของ
จันทะและสุริยเทพบุตร แล้วได้ยืนอ้าปาก ทำให้จันทวิมานและ
*มก. เล่ม ๒๔ หน้า ๓๔๐