ข้อความต้นฉบับในหน้า
ศึก ชิ ง ภ พ
๔๑๖
หมดความรู้สึก มีกายแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ ถ้าจะเปรียบก็
เหมือนไฟตะเกียง อาศัยน้ำมันชุบที่ได้จึงมีแสงสว่าง ถ้าน้ำมัน
หมดไฟก็ดับลง รูปกายของเรานี้เหมือนกับตะเกียง ชีวิตินทรีย์
เหมือนน้ำมัน
เพราะฉะนั้น เมื่อหมดบุญชีวิตินทรีย์ขาดก็สิ้นลมหายใจ
ครั้นหมดลมวิญญาณก็ดับ ตาก็ไม่เห็น หูก็ไม่ได้ยิน จมูกก็ไม่ได้กลิ่น
ลิ้นก็ไม่รู้รส กายก็หมดความรู้สึกเหมือนท่อนฟืนที่รอการเคลื่อน
เข้าเตาไฟ ไม่หวั่นไหวต่อความเย็นร้อนอ่อนแข็ง ถ้าทิ้งไว้ก็มี
แต่จะเน่าเหม็นพุพอง น่าเกลียด น่าชัง คนที่เคยคลั่งไคล้
หลงใหลกันมาก่อน ก็ไม่อยากเข้าใกล้ ถึงขั้นนี้แล้วก็ไม่น่า
ทะนุถนอม จำต้องเอาไปเผาในป่าช้า
มีตัวอย่างเกี่ยวกับชีวิตของผู้ที่ละจากโลกนี้ไปแล้ว
เนื่องจากจิตใจเศร้าหมองไม่ผ่องใส จึงพลัดตกลงไปในยมโลก
ต้องให้พญายมราชทําการไต่สวน เหมือนสัตว์นรกทั่วๆ ไปเมื่อ
ตายแล้ว ต้องผ่านการพิจารณาคดีความจากพญายมราชเสีย
ก่อนว่าจะไปเสวยทุกข์ในมหานรกหรือในอุสสทนรก ตัวอย่าง
ที่จะนํามาเล่านี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการชิงช่วงและช่วงชิง เป็นก
ชิงภพงบดุลชีวิตว่า จะไปสุขหรือทุกข์ ก็อยู่ที่ว่าจะนึกถึงบุญ
หรือบาป หมองหรือใส ก่อนจะละโลกเคล็ดลับก็อยู่ที่หมองกับ
ใสนี่แหละ