ข้อความต้นฉบับในหน้า
เทพบุตรมาร (๒)
៤៩២
เอาไว้ว่า “สืบไปในภายภาคหน้า จะมีภิกษุรูปหนึ่งนามว่าอุปคุต
เถระ จักปราบท้าววสวัตดีมารให้ละพยศอันชั่วร้าย และพ่ายแพ้
แล้วจะให้ท้าวเธอกล่าวปฏิญญาปรารถนาพุทธภูมิ”
พระมหาเถรเจ้ารูปนี้ ท่านเป็นผู้มีปกติปลีกวิเวก มักน้อย
สันโดษ ท่านมักจะเข้าอาโปกสิณ ทำให้ห้วงมหาสมุทรเป็น
ที่โล่งๆ ว่างๆ แล้วเนรมิตปราสาทที่สำเร็จด้วยแก้ว ๗ ประการ
ประดิษฐานในท้องมหาสมุทร นั่งเข้านิโรธสมาบัติอยู่ภายใน
ท่ามกลางรัตนปราสาท นานๆ จะออกมาสู่โลกภายนอก เพื่อ
แสวงภัตตาหารมาขบฉันพอประทังชีวิต หล่อเลี้ยงกายหยาบให้
ดำรงอยู่ได้ ท่านจึงเป็นผู้มีร่างกายผ่ายผอม เนื้อตัวสะพรั่งไป
ด้วยเส้นเอ็น แต่ท่านก็มีร่างกายที่แข็งแรง ผิวพรรณวรรณะ
เปล่งปลั่งผ่องใสมาก
พระกีสนาคอุปคุตเถระ
เพื่อนสหธรรมิกจึงให้ฉายานามว่า
เมื่อพระภิกษุ ๒ รูป ผู้ทรงอภิญญา ได้ชำแรกพื้นปฐพี
มานิมนต์ท่านถึงที่อยู่ แล้วอาราธนาท่านให้มาสู่ที่ประชุมสงฆ์
พระอุปคุตรับคำแล้ว พร้อมกับส่งภิกษุ ๒ รูป ล่วงหน้าไปก่อน
ส่วนท่านจะตามไปทีหลัง แต่เนื่องจากท่านเป็นผู้ชำนาญในฤทธิ์
มาก แม้ไปทีหลังแต่ก็ไปถึงก่อน และได้เข้าไปกราบพระมหา
เถระในท่ามกลางมหาสมาคม ที่ประชุมสงฆ์ได้ประกาศอาญา-