ข้อความต้นฉบับในหน้า
ศรัทธา พาพ้นทุกข์
១៨៦
สรรพสัตว์ที่เกิดมาแล้ว ล้วนบ่ายหน้าไปสู่ความตาย
ความตายนั้นติดตัวเรามาพร้อมๆ
กับการลืมตาขึ้นมาดูโลก
เหมือนดอกเห็ดที่ผุดขึ้นมาพร้อมกับดินฉะนั้น บัณฑิตนักปราชญ์
ผู้มีปัญญา มองเห็นว่า ความตายไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว เป็นเพียง
แต่การย้ายที่อยู่อาศัย ไปสู่ภพภูมิที่เหมาะสมกับบุญบารมี หรือ
บาปอกุศลที่ทำไว้เท่านั้น ผู้มีบุญมากก็ย้ายไปอยู่ในสุคติโลกสวรรค์
ผู้มีบาปมากก็ต้องไปอยู่ในอบายภูมิ หากเราไม่ประสงค์ความ
ตายหรือกลับมาเกิดอีก ต้องหมั่นฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งไม่ถอนถอย
จนกระทั่งถึงกายธรรมอรหัต สามารถขจัดกิเลสอาสวะให้หมด
สิ้นไปได้ เมื่อทําได้เช่นนี้ เราย่อมไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
มีวาระแห่งภาษิตใน รัฐบาลเถราปทาน ความว่า
“บุคคลจะอายุยืนเพราะทรัพย์ก็หาไม่ จะละความแก่
ไปเพราะทรัพย์ก็หาไม่ นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวชีวิตว่าเป็น
ของน้อย ไม่ยั่งยืน มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา คนพาล
ถูกอารมณ์ที่ไม่พอใจเบียดเบียน ย่อมอยู่เป็นทุกข์เพราะ
ความเป็นพาล ส่วนนักปราชญ์ถูกผัสสะถูกต้องแล้ว ย่อมไม่
หวั่นไหว ปัญญาจัดว่าประเสริฐกว่าทรัพย์ เพราะปัญญา
เป็นเหตุให้บรรลุพระนิพพาน แต่คนพาลไม่ปรารถนาจะบรรลุ
พากันทำความชั่วต่างๆ วนเวียนอยู่ในภพน้อยภพใหญ่