ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชน
เทพบุตรมาร (๒)
៤៨៩
ภิกษุนี้เรากล่าวว่า ไม่ไปสู่ที่อยู่ของมาร ไม่ตกอยู่ในอำนาจ
ของมาร ไม่ถูกมารครอบงำ เป็นผู้พ้นจากบ่วงมาร ภิกษุนั้น
มารผู้มีบาปพึงใช้บ่วง ทำตามความปรารถนาไม่ได้”
มาร คือผู้ขัดขวางการทำความดี เช่น เทวบุตรมาร
มีตัวตนจริงๆ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นามธรรมอย่างที่คนธรรมดา
สามัญคิดกันเท่านั้นว่า มาร คือ อาสวกิเลสที่เป็นความโลภ
ความโกรธ ความหลง จับต้องไม่ได้ มารที่เป็นกิเลสท่านเรียกว่า
กิเลสมาร แต่ที่เป็นเทวบุตรมาร หรือพญามารที่มีตัวตนจริงนั้น
เราจะรู้เห็นได้ ต้องเข้าถึงวิชชาธรรมกาย ก็จะเห็นตัวจริงเขา
เขาจะคอยขัดขวางการกระทำความดีของเรา และคอยบังคับ
บัญชา ไม่ให้เราหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ โดยจะส่งกระแสกิเลส
เข้ามาบังคับจิตใจมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ที่เอาใจออกห่างจาก
ศูนย์กลางกาย จะเปิดช่องให้กิเลสมารเข้ามาแทรกได้ง่าย
ในขณะเดียวกัน เขาจ้องหาโอกาสช่วงชิงอยู่ตลอดเวลา และจะ
ทํางานกันไม่ได้หยุดเลย มีอานุภาพมากถึงขนาดยกพลมา
มืดฟ้ามัวดิน เพื่อแย่งชิงรัตนบัลลังก์ของพระบรมโพธิสัตว์ของเรา
ก่อนที่พระองค์ท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เหล่าเทวดาทุกสวรรค์ชั้นฟ้าที่ลงมาห้อมล้อม ครั้นเห็นพญามาร
และเสนามารยกพลมามากมาย อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ต่างพากันหลบหนีเอาตัวรอด ไปแอบอยู่ขอบจักรวาล ในพระ