ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชll
กระแสแห่งกรรม (๑)
๔๕๕
แล้วกล่าวว่า “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พระเถระนั้นเห็นจะเหน็ดเหนื่อย
เมื่อยล้า ขอพระคุณเจ้าจงนำข้าวปายาสนี้ถวายท่านด้วยเถิด”
พระเถระเจ้าอาวาสรับบาตรด้วยความจําใจ เดินไปก็คิดไปด้วย
ความริษยาว่า ถ้าภิกษุนั้นได้ฉันข้าวปายาสนี้ เดี๋ยวก็คงติดใจ
เมื่อเราจะจับคอฉุดลากออกจากกุฏิเห็นจะไม่ไป ถ้าหากเราให้
ข้าวปายาส แก่คนอื่น เดี่ยวความจะแตก ถ้าเททิ้งลงในแม่นํ้า
เนยใสก็จะลอยให้เห็น หากทิ้งบนแผ่นดิน ฝูงกาจะรุมกันกิน
ความจะแตกอีกเหมือนกัน เราควรทิ้งข้าวปายาสนี้ที่ไหนดีหนอ”
ครั้นเดินผ่านนาที่ไฟกำลังไหม้อยู่ ก็คุ้ยถ่านขึ้น แล้วเท
ข้าวปายาสลงไป จัดแจงกลบด้วยก้อนถ่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จึงเดินกลับวิหาร เมื่อไม่เห็นภิกษุอาคันตุกะจึงได้สติ คิดได้ว่า
ตายแล้วเราทำกรรมหนักเสียแล้ว ภิกษุนั้นคงจักเป็นพระขีณาสพ
ถึงรู้อัธยาศัยของเราแล้วไปเสียที่อื่นเป็นแน่ โอ เพราะท้องเป็น
เหตุ เราทํากรรมอันไม่สมควรเลย ทันใดนั้นความเสียใจอย่าง
ใหญ่หลวงก็เกิดขึ้นแก่ภิกษุนั้น กรรมที่ทำกับพระผู้ทรงคุณวิเศษ
ได้ให้ผลในวันนั้นทีเดียว คือเกิดความเร่าร้อนอยู่ตลอดเวลา
อยู่มาไม่นาน ก็ตายไปบังเกิดในมหานรก
ภิกษุนั้นตกนรกหมกไหม้อยู่หลายแสนปี เศษของผล
กรรมยังนำให้ไปเกิดเป็นยักษ์ถึง ๕๐๐ ชาติ ไม่เคยได้กินอาหาร