ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิปรายความสัมพันธ์เล่ม 2 - หน้าที่ 167
ปัจจสมสมย ทั้งหมด มุข. และตาม อุ. ที่ ๑ เกรส เข้ามา สนจูฒฐาน
อย่างนี้เป็นต้น. ทบทบพุทพิสมาส ก็พี่คิดออกโน้มตามนี้.
บางแท่ง มีปัญหาที่ต้องวิจัยฉันและอวัจฉัยต่าง ๆ กัน เช่น
อาห มณฑสุ มณฑศิตา เจว ปาปริภาก จ. สกุก ๒/๐๖.
มณฑสุ เป็นสามีสัมพันธ์เข้าเภา มณฑุด-และ ปาท- เพราะถือเป็น
สัมพันธ์เฉพาะศัพท์ต้นเท่านั้น อีกอย่างหนึ่ง เข้าตลอด เพราะถือ
ความว่า มณฑศิตา=ลูกที่ลูกอ่อน, ปาปริภาก=กิริยา.
(๒๒) การแสดงสัมพันธ์อัญจกถา ต้องรู้จกตั้งและบทแก้
และวิธีต่าง ๆ เช่น วิวิธีะ-วิรณะ เป็นต้น ตลอดถึงวิธีบอกชื่อ
บอกเข้า เรื่องเหล่านี้ได้กล่าวมแล้ว จะไม่กล่าวซ้ำอีก.
นอกจากนี้ ต้องรู้วิธีหรือลักษณะพิเศษต่าง ๆ ด้วยอาศัยการศึกษา
สำเนียงกาพระอาจารย์ฯ.
หลักสังคตศกพ
(๒๓) จำต้องรู้จักนิยมเทาว่าไว้ในนี้นะ ว่า บอกอะไรอะไรม
เรียกชื่ออย่างไร, ต้องรู้ที่พวงนิบาต เพื่อว่ามาแห่งท่านไม่ไกลาวไว้
แต่ต้องเติมเข้ามา ก็ถัดม ได้แก่คมปิ, นิวบัติท่านไม่ไวงไว้ในบางครั้ง
เช่น อุปไมยโขตท, อรสุรนิกา เป็นอาทิ ทางที่จะให้ข้าวนิบาต
ก็คือรู้ความเนื่องกันของพากย์ ดังกล่าวในข้อ(ธ), เรื่องนี้พึ่งสำเหนียก
จากแบบวากายสัมพันธ์ตอนต้น ตอนที่ว่าด้วยนิบาต เพราะท่านได้อธิบาย
ถึงข้อความที่เนื่องกัน อย่างไรฟังไว้บ่นดอกอย่างไร, ถ้าสังเกตให้ดีแล้ว
นอกจากจะได้ความรู้เรื่องนิบาต ยังจะได้ความรู้ความเนื่องกันของพากย์