ความสัมพันธ์ในประโยค อธิบายวากยสัมพันธ์ เล่ม 2 หน้า 161
หน้าที่ 161 / 228

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เน้นการเข้าใจความสัมพันธ์ในประโยค เราจะได้เรียนรู้วิธีแยกประโยคยาว ๆ ที่ซับซ้อนออกเป็นส่วนสั้น ๆ และง่าย ๆ ทำให้สามารถวิเคราะห์ความสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น โดยใช้หลักไวยากรณ์ เช่น การแยกพากย์ การเนื่องกันของพากย์ต่างๆ และวิธีการใช้คำต่างๆ เพื่อความชัดเจน การรู้จักความสัมพันธ์นี้จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหาที่มีความซับซ้อนและสามารถสื่อสารออกมาได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ.

หัวข้อประเด็น

-การเรียนรู้ความสัมพันธ์
-วิธีการจัดระเบียบประโยค
-การแยกประโยคซับซ้อน
-หลักไวยากรณ์ในประโยค
-การเนื่องกันของพากย์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อธิบายความสัมพันธ์ เล่ม 2 - หน้า 160 รู้ความสัมพันธ์. ต่อมา เมื่อเรียนรู้แบบสัมพันธ์ ก็เลือกชื่อสัมพันธ์และ แสดงวิธีสัมพันธ์ให้ถูกต้อง. (๓) ถ้าเป็นประโยคสั้น ง่าย ๆ อย่างนี้ ก็โน้ะไม่รีบใคร บอกสัมพันธ์ผิด แต่เพราะมีประโยคยาว ๆ และซับซ้อน การบอก สัมพันธ์ประโยคเช่นนี้ จึงเป็นการยาก แต่มีวิธีทำให้ง่าย คือท่อน ลงเป็นท่อน ๆ คือคัดเป็นพวกอย่าง ๆ, กำหนดให้รู้ว่า บทไหนอยู่ ในพวกยางใดไหน และมีการเนื่องกันอย่างไร เช่นนี้ประโยคยาว ๆ ซับ ๆ ช้อน ๆ ก็จะแยกเป็นสั้น ๆ ง่าย ๆ กล่าวสั้นก็ต้องกำหนดให้รู้ว่าก่อน พาก่อนวาเป็น กฎตน, ก็มเป็นต้น, ให้รู้ว่าคัดพวกวาเป็น พาจงค่านาม หรือคุณ หรืออธิษฐาน, ให้รู้ว่าบว่าเป็นบทนาม บทกริยา ตลอดถึงคำที่มีนามบาด และบทไหนเนื่องกันบทไหน. หลักสังเกตพากย์ (๔) การรู้จักพากย์อันเป็นต้องรู้ในเบื้องต้นนั้น กล่าวตามหลัก ไวยากรณ์ ก็รู้จักพากย์ตามวางจาก ทั้ง ๆ คือให้รู้ว่าเป็นประโยค ก็ตจากวา ประโยคมาจาก ประโยคภาวจาก ประโยคเหตุจากวาก ประโยคเหตุคืมมาจาก. (๕) ให้รู้จักความเนื่องกันของพากย์ เพราะโดยปกติ พากย์ ทั้งหลาย ก็คือความท่อนหนึ่ง ๆ ที่แสดงข้อความในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จึงเนื่องกัน เช่นท่อนต้นกล่าวแต่โดยอ่อ, ท่อนหลังกล่าวโดยพิสาส : ท่อนต้นแสดงความงามไม่หมด, ท่อนหลังปรารภแสดงต่อเนื่องกันไม่ขาดสาย ดังนี้เป็นต้น. ความเนื่อยกันนี้อาจกำหนดรู้ได้ทางความ ทางการวางนิบาด ในท่อนนั้น ๆ และทางประกอบ ย - ต เป็นตน.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More