ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธานายในสัมพันธิ์ เล่ม ๒ - หน้าที่ 204
ทั้ง ๒ จึงต่างวิถีดกัน. อีกอย่างหนึ่งท่านประกอบวิถีเดียวกัน อ.
พันธนา วิปุโลภ โหติ ยกทิ อวิชา พนุธนา [ม. ม. เวชขน.
๑๑/๓๑๒] "เป็นผู้พ้นจากเครื่องผูก คือ จากเครื่องผูกคือวิชชา."
[ ๔ ] ตัวอย่างที่มาแสดงตั้งแต่บนี้ เพื่อแสดงว่า ยวิทิ ใช้ใน
รูปประกอบหลายอย่าง ตั้งแต่ง ต คศท์ไว้ชัดเจน และเลื่อนไปจน
ถึงต้องฝาน ต คศท์ จนถึงหน้าฝานไม่ได้ กลายเป็นนิจจา (โดยการ
ใช้) ในพวก เสยฏิที. ประโคติมัง ต คศท์ไว้หรือที่ฝาน ต คศท์
ลงได้ เวลาเปลัดย-๓ ไม่ปรากฏ ยกติ, ถ้าจะให้ปรากฏต้องอ่านแปล
ยเทิว่า "คือ" และตั้งรูปคำแปลใหม่ เช่น เอส ปจโจโย ชรามรณสุข
ยติที ชาติ แปลว่า "นั่นเป็นปัจจัยแห่งชราของมนะ คือ ชาติ" แปล
อย่างนี้ ใกล้กับบูรพา: ผู้พยายามนิยมแปลดังนี้.
บทกำหนดด้วย ยกที นี้ คล้ายกันกับบูรพา. อาเทียบกันได้
ดังนี้: บทกำหนดคนเดียว เป็นวิสาสะ, หลายบท เป็นสุรป, แม้
แสดงกำหนดด้วย ยกที-เสยฏิที นี้ก็เหมือนกัน, แสดงกำหนดคนเดียว
ใช้ ยกที. แสดงกำหนดหลายบท ใช้เสยฏิที. วะนัน การแสดง
สัมพันธิ พึงสังเกตวิธีรึวิธ๊ เนี้ในทีนินามา ใชในทีนามสมควร.
อึ่งิ ในประโยคกำหนดคนเป็นเหตุ เช่น ยวิที มหนดตุตาย,
แปล ยทีว่า "เข้าใจความไม่แน่น, แปลเป็นปัจจุบันตะกฏิงถึง
เหตุ (หรือใช้เป็นวิสาสะ ของ การณ, การณ เหตุ) เข้าความได้,
ในเวลาปฏิโดรรถ มักไม่ปรากฏ. ยที ที่กำหนดความถึงเหตุนี
คล้าย ก็การนา หรือ ดี กิสสุ เหตุ, แต่ กิฏิรา เป็นจำนวนใหม่,