ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายวามสัมพันธ์ เล่ม ๒ - หน้าที่ 135
อ. ที่ ๒
อัป นาม อชฺช ชโลมญาม. [มงคลคฺฺฺต๙.๑/๒๖] "ทำ อย่างไรเสีย วันนี้ เราทำได้."
อุปโล นาม ว่ามาจาก อป+อ+นาม, เพราะ อปิ เมื่อมีอิสระ ตามมา บางครั้งกลายเป็น อุป ไป จึงเป็น อุปปา นาม.
อึ่ง ปีวเป็นรูปรูปของ อปี เนื่องจากการสนธิเครื่อง,เพราะ อปิ เมื่อสนธิเครื่องหน้า อ ย่อมกลายไปโดยวิธีสนิท เช่น อชฺชาปิ จาป ปีว หรือหายไป เช่น มนฺสุติ สวา ปีว สุพเจว, จึงกลายเป็น รูป ปี ขึ้นใช้อักษัพหนึ่ง โดยไม่คานึงถึง อ ต้นอักษฺ เช่น ทุตยาม ปีติติ ถิรปี อปิโ ต้องสนิทเป็น ทุตยามปี อติติ หรือ อิจฺฉา ปี), และเช่น มนุสโลปิ วา ปีว สุพเจว จะเขียนว่า มนุสโลสฺโก (มนุสโลสฺโส)
ปี วา ปี, สุพเจว (สุพเจว) ก็ได้: ว่า มนุสโล ปี,
วา ปี, สุพเจว ก็ได้.
(๓) อัล ท่านว่า (๑๘๐) ใช้ไปอรรถ ภูษะ (พอ) อ. อัล-
กฺารํทําให้ (งาม) พอ บ้าง, วรรณะ(ปฏิกฺเปนฺตา หรือปฏิโกษฺ)น = อย่า
เลย) อ. อัล เม พุทธเจน 'อย่าเลยด้วยพระพุทธเจ้าของเรา' บ้าง,
ปรีดิติ (พอ, ควร, อา, สามารถ) อ. อลมฺภ สุพฺทั้งหลาย
พอ บ้าง, แตกทางสัมพันธึงเรียกตามน้อมอยู่ในประโยค อุ.:
อุ. ที่ ๑ (วารณะ)
อัล happy, มาาา เม ตชฺชุตติ. [ปฏิกฺยิชฺวา. ๓/๑๕]
"อย่าเลย ผู้เป็นเจ้า, มาตราของข้าพเจ้าจะคูเอา" อลิ เรียกลิงค์ตะ