ข้อความต้นฉบับในหน้า
ป. ทิ หนา ๑๕๔).
อรรถกถา [ป. ทิ. หน้า ๑๕๔] แก่ว่า อนุ วตฺตุโพ.
อุ. ที่ ๖
สูมยฺ จาฏิ [อุ ปิจฺ] อนฺน. ๑/๑/ ญาณอันสำเร็จด้วยสุดๆ:
อรรถกถา [สท. ป. หนา ๑๕] แก่ว่า สูมยฺ เป็น ปัจฉิตตวามนะ
(ปฐมนิภวิภคติ) ความว่า สูมยฺ จาฏิ, ท่านอ้าง น หว่า วตฺตูโพ,
วนุปปคุมเพฺยามา ผสฺติคุณ, นฺติฺ อุตตาราม เป็นอาทิ.
อ. ที่ ๓
อสุภามโฑ อุสุภามคฺคาราม สมั, วิสัม, ทุกามพหลฺ, สกุรพฤหฺ, กามวตฺติ, ตมุพมฺติกาติ. [ปรจิฏฺฐาอุสุภูปจฺฉู.]
๑/ "ที่ไปสู่บ้านโน้นจากบ้านโนน เสมอ, ที่ไป ...โนน ไม่เสมอ, ที่ไป...โนน มากด้วยเปือกตม, ที่ไป....โนน มากด้วยกรวด, ที่ไป...โนน มีดินดี, ที่ไป...โนน มีดินแดง." (ใน อ. นี้ บางท่านใช้เต็ม ธาน หรือ ปรวิลตฺ เข้ามาเป็นประธาน).
[๒] สัตถิยฐานความเป็นมงคลรูปสุตมปิฏฐตะ มีดังนี้:- ในคำบำบังก็รัศททีว่า ภาษาเณร (มคธ) มี ๒ อย่าง:
๑. สูมยฺ.
๒. อสุภามคฺ.
หรือ เทเสยมคฺ.
สูมยฺ ว่าเป็นภาษาที่พระพุทธเจ้าใช้เทศนาสอน อสุภามคฺ ว่าเป็นภาษาพูกจากของบานครและคร หรือเจ้าลักอื่นให้ส่งสอน, และว่า อสุภามคฺ หรือ เทเสยมคฺ นั้น ไม่ไพเราะหรือได้