ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปะโยค - อธิบายความสัมพันธ์ เล่ม 2 - หน้าที่ 209
คำเปลือกแบบหนึ่ง
"ภิญทุ ท.. นั่นเป็นยอดแห่งธรรม ท.. 2 เหล่านี้ คือธรรมทาน."
[๒] ในการยกศัพท์แปลว่า "ขุชชฏตรา ขุชชฏตรา ยกทิ
นี้ได้, ขุชชฏตรา ขุชชฏตรา เอต นั้น อุกึ โหติ เป็นยอด."
อาจเกิดความไม่สนิท, ท่านจึงอาจสอนให้ว่าว่า คือไปหลงลื
ของบทนานๆ เช่นว่า ขุชชฏตรา ขุชชฏตรา ยกทิ เมะ ษา
เอา, ยาเอา. นี้ได้. เอตุ เมะ เอตุ. เอถา ชุชชฏตรา
ชุชชฏตรา นั่น อุกึ เมะ อุกึ อุกึ โหติ เป็นยอด....
คุฏเข้าที่ แต่พึงทราบว่านั่นเพียงเพื่อแสดงว่า ยกทิ เท่ากับ ษา เอสา
เป็นต้น, ในเวลาสัมพันธ์ไม่พึงออกเป็น วิริยะ-วิริยะะ พึงออก
เข้าโดยตรง, หรืออบวาระด้วยอย่างกศพัทท์เล็กก็ได้.
๓] เอศุกกัน นี้ ถือลือเป็นบานทา เหมือนที่แสดงไว้ใน
ปทานกุมบางฉบับ แปลว่า เอททกะ หรื อุโบ
สัมพันธ์เป็นลักษณะกะหรือวิสัยนะกีได้ เหมือนดัง อ. ที่ ๒ แปลว่า
"เอททกะ (หรืออุโบกะ) แหงอุบาสกทา. ผู้สำวาจของเรา
ผู้พุทธสุ ครับ ขุชชฏตรา."
สรุปอธิบาย : เอททกะ พึงถือเป็นนิบาต ใช้ได้ในลังค์ทั้ง ๓
เหมือน ยกทิ เรียกชื่อตามวรรคที่ใช้.
อิท
(๔) อภิ นิบาต มีใช้ในคำเก่ามากแห่ง โดยมากใช้รวม
เข้ากับศัพท์อื่น, พบเป็นพื้นอยู่คือ เลยยกกี (เลยยกา+อิท),