ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
พระพุทธคุณ ตอน ผู้รู้แจ้งด้วยตนเอง
๕๐
โดยค่อยๆ ลดปริมาณพระกระยาหารลง จนในที่สุดถึงกับไม่
เสวยเลย พระวรกายก็ชูบผอมลงทรงเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก
เวลาเอามือลูบหน้าท้องก็ถูกกระดูกสันหลัง เอามือลูบกระดูก
สันหลังก็จับถูกผิวหน้าท้อง เมื่อลุกขึ้นก็ซวนเซล้มลงเพราะไม่มี
กำลัง พระฉวีที่เคยผุดผ่องก็กลับเศร้าหมองเพราะขาดอาหาร
ถึงอย่างนั้นพระองค์ก็ยังทรงมีพระสติมั่นคง ไม่ท้อถอยเลิกละ
ความเพียร จนกระทั่งวันหนึ่งพระองค์ประชวรอย่างหนัก ถึงกับ
วิสัญญีภาพ
เมื่อทรงได้สติฟื้นขึ้นมา พระองค์ทรงพิจารณาถึงการ
บำเพ็ญทุกรกิริยาที่ผ่านมา และดำริว่า “ถึงบุคคลทั้งหลายใน
โลกนี้ จะกระทำทุกรกิริยาอย่างอุกฤษฏ์เช่นไร ก็คงไม่เกินไป
กว่าเรา แม้เราได้ปฏิบัติอย่างอุกฤษฏ์เช่นนี้แล้ว ก็ยังไม่บรรลุ
พระโพธิญาณแต่อย่างใด หนทางนี้ไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์อย่าง
แน่นอน” จึงทรงเริ่มหวนคิดถึงความเพียรทางใจ
ขณะนั้นเอง พระอินทร์ ล่วงรู้ถึงความคิดของพระองค์ จึง
เสด็จมาทรงพิณ ๓ สายให้พระองค์ทรงสดับ สายแรกตึงเกินไป
เมื่อดีดสายพิณก็ขาดสายที่สองหย่อนเกินไปเสียงพิณไม่ดังกังวาน
สายที่สามไม่ตึงไม่หย่อนกำลังพอดี ดีดแล้วเสียงกังวาน ไพเราะ
พระสิทธัตถะได้สดับดังนั้น จึงทรงพิจารณาว่า “หนทางสายกลาง