ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
พระทศพลญาณ
៤៨៧
พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ
ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก
เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นครูของเทวดา
และมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม
สารีบุตร การที่สุนักขัตตะกล่าวเช่นนั้น เพราะไม่รู้ว่า
พระผู้มีพระภาคทรงบรรลุอิทธิวิธีหลายประการ คือ คนเดียว
ทําเป็นหลายคนได้ หลายคนเป็นคนเดียวได้ ทำให้ปรากฏ หรือ
หายไปก็ได้ ทะลุฝากำแพง หรือภูเขาก็ได้ ไม่ติดขัดเหมือนไปใน
ที่ว่าง ผุดขึ้นหรือด่าลงในแผ่นดินเหมือนดำลงไปในน้ำก็ได้ เดินไป
บนนํ้าเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้ เหาะไปในอากาศเหมือนนกก็ได้
ลูบคลำพระจันทร์พระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธานุภาพมากด้วยฝ่ามือก็ได้
ใช้อำนาจทรงกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้
สุนักขัตตะไม่รู้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นทรง
สดับเสียง ๒ ชนิด คือ เสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ ทั้งที่อยู่ไกล
และใกล้ ด้วยทิพยโสตอันบริสุทธิ์ ล่วงโสตของมนุษย์ ทรงกำหนด
รู้ใจของสัตว์อื่นหรือบุคคลอื่นด้วยใจ คือ จิตมีราคะก็รู้ว่าจิตมีราคะ
จิตปราศจากราคะก็รู้ว่าจิตปราศจากราคะ จิตมีโทสะก็รู้ว่าจิตมี
โทสะ หรือจิตปราศจากโทสะก็รู้ว่าจิตปราศจากโทสะ จิตมีโมหะ
ก็รู้ว่าจิตมีโมหะ หรือจิตปราศจากโมหะก็รู้ว่าจิตปราศจากโมหะ
จิตเป็นสมาธิก็รู้ว่าจิตเป็นสมาธิ หรือจิตไม่เป็นสมาธิก็รู้ว่าจิตไม่