ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
ทุ่มสุดชีวิต เพื่ออภิสัมโพธิญาณ
๔๔๔
พบเคียวเกี่ยวหญ้าอันหนึ่ง
ท่านเศรษฐีจึงชวนภรรยาออกไป
เกี่ยวหญ้าเพื่อนําไปขาย เมื่อได้ทรัพย์มา ส่วนหนึ่งน่าไปซื้ออาหาร
อีกส่วนหนึ่งได้แบ่งให้ทาน วันหนึ่ง เมื่อหาบหญ้าไปขายได้เงิน
มาแล้ว ได้แบ่งส่วนหนึ่งให้แก่พวกขอทาน แต่ขอทานมีมาก
เมื่อพวกขอทานที่ไม่ได้ มาร้องขอบ้าง ท่านเศรษฐีจึงให้ส่วน
ของตนไปจนหมด
ท่านเศรษฐีให้ทานเช่นนี้ติดต่อกันถึง 5 วัน ครั้นวันที่ ๗
ขณะท่านเศรษฐีกำลังหาบหญ้า เนื่องจากท่านอดอาหารติดต่อ
กันมาหลายวัน จึงรู้สึกหน้ามืดตาลายเป็นลมล้มลงไป พระอินทร์
เห็นอาการของท่านเศรษฐี ได้เฝ้าดูอยู่ ทันทีที่ท่านเศรษฐีได้สติ
พระอินทร์รีบถามว่า “เมื่อก่อนท่านมีทรัพย์สมบัติมาก แต่ต้อง
ยากจนลงสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะการให้ทาน การให้ทานไม่ได้
ช่วยอะไรท่านเลย เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ไปท่านไม่ควรให้ทานอีก
เมื่อท่านประหยัดทรัพย์ สมบัติก็จะเพิ่มขึ้น ถ้าท่านให้ปฏิญญา
แก่เราว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ท่านจะไม่ให้ทานอีก ท่านก็จักได้
เป็นมหาเศรษฐีตามเดิม
ท่านเศรษฐีค่อยๆ ลืมตาขึ้น พลางถามว่า “ท่านเป็นใคร
ทําไมมายืนกล่าว อัปมงคลแก่หูของเรา”
พระอินทร์ตอบว่า “เราเป็นท้าวสักกะ”