ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ทุ่มสุดชีวิตเพื่ออภิสัมโพธิญาณ
៤៤៥
ท่านเศรษฐี ยิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้น จึงถามว่า
“ธรรมดาท้าวสักกะย่อมสรรเสริญการให้ทาน
สมาทานศีล
รักษาอุโบสถ บำเพ็ญวัตตบท ๗ ประการ จึงได้เป็นท้าวสักกะ
แต่ไฉนวันนี้ พระองค์จึงทรงห้ามการให้ทานเสียเองเล่า”
เมื่อพระอินทร์ไม่อาจห้ามท่านเศรษฐีได้ จึงตรัสถามว่า
“ท่านให้ทานเพื่อประโยชน์อะไร”
ท่านเศรษฐีตอบว่า “ข้าพเจ้าให้ทานเพราะมิได้ปรารถนา
จะเป็นท้าวสักกะ แต่ปรารถนาพระสัมมาสัมโพธิญาณ”
ท้าวสักกะได้สดับแล้ว รู้สึกชื่นชมท่านเศรษฐีว่า เป็น
ผู้มีจิตใจสูงส่ง มีความปรารถนายิ่งใหญ่ประดุจพระบรมโพธิสัตว์
จึงเอาพระหัตถ์ลูบหลังท่านเศรษฐี
ทันทีที่ท่านเศรษฐีถูกท้าวสักกะลูบหลัง ร่างกายของ
ท่านก็กลับมีเรี่ยวแรง กระปรี้กระเปร่าขึ้นมา และด้วยอานุภาพ
ของท้าวสักกะ ทรัพย์สมบัติของท่านเศรษฐี ก็บังเกิดขึ้นมากมาย
ใช้ไม่มีวันหมด ตั้งแต่นั้นมา ท่านเศรษฐีได้ทุ่มเทในการให้ทาน
อย่างสุดกำลัง ท่านรักการให้ทานมากเป็นชีวิตจิตใจ จากที่เคย
บริจาคทรัพย์วันละ 500,000 กหาปณะ ก็บริจาคเพิ่มขึ้นอีก
เท่าตัว ทําเช่นนี้จนตลอดอายุขัย