ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
พระพุทธคุณไม่มีประมาณ
๒๕
ของท่านแล้ว เมื่อจะทรงประทานพระโอวาทให้เหมาะกับ
อาจาระนั้น จึงได้ตรัสสอนว่า “บรรดามนุษย์ในโลกนี้ นรชนใด
เบียดเบียนสัตว์เหล่าอื่น นรชนนั้นย่อมกำจัดสุขในโลกทั้ง ๒ คือ
ประโยชน์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ส่วนนรชนใดมีจิตเมตตา
อนุเคราะห์สัตว์ทั้งมวล นรชนผู้เป็นเช่นนั้น ย่อมประสบบุญตั้ง
มากมาย ภิกษุควรศึกษาและปฏิบัติธรรมอยู่เนืองๆ ควรเข้าไป
นั่งใกล้สมณะ ควรอยู่แต่ผู้เดียวในที่วิเวกเพื่อบำเพ็ญสมณธรรม
และควรทําความสงบระงับให้เกิดขึ้นในใจ”
ท่านวารณเถระได้ปล่อยใจไปตามกระแสพระธรรมเทศนา
พระบรมศาสดาทรงรู้ว่าท่านมีจิตละเอียดอ่อน แล้ว ก็ทรงสอน
เรื่องไตรลักษณ์และยกใจของท่านขึ้นสู่วิปัสสนา ครั้นเจริญ
วิปัสสนาแล้ว ก็ได้บรรลุพระอรหัตตผล
มีอยู่วันหนึ่ง ท่านได้ระลึกชาติไปดูอดีตของตัวเอง ก็พบว่า
ในกัปที่ ๙๒ นับถอยหลังจากกัปนี้ไป ท่านเคยเกิดในตระกูล
พราหมณ์ เป็นผู้ถึงฝั่งในวิชาและศิลปะของพราหมณ์ เมื่อมอง
ไม่เห็นที่สุดของวิชาที่ตนเรียนรู้อยู่ และมองเห็นว่าชีวิตการ
ครองเรือนเต็มไปด้วยการแก่งแย่งและเบียดเบียนกัน จึงออกบวช
เป็นฤๅษีอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ ตั้งใจบำเพ็ญตบะ จนได้
อภิญญาสมาบัติ และท่านมีลูกศิษย์อยู่ประมาณ ๕๔,๐๐๐ คน