ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
พระพุทธคุณ ต อ น ผู้สมบูรณ์ ด้วยวิชชาและจรณะ
๖๐
ผู้นั้นก็ย่อมได้รับความสุข เป็นอิสรเสรี ไม่ต้องมีใครมา
เบียดเบียนให้เกิดทุกข์อีกต่อไป เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว ท่านปรารภ
เหตุนั้นเพื่อสอนตัวเองว่า “น่าสงสารทั้งเหยี่ยวและนกตะกรุม
ที่ต้องบอบช้าเพราะการแย่งชิ้นเนื้อ แล้วก็ไม่มีตัวใดที่ได้สมหวัง
ฉะนั้นชีวิตเราก็ไม่ควรไขว่คว้าแสวงหากามคุณ ซึ่งไม่อาจทำให้
เราสมหวังอย่างแท้จริงได้ เราควรออกบรรพชาเสียโดยเร็ว
เพื่อให้บรรลุความสุขอันเกษม”
เมื่อพระโพธิสัตว์ออกเดินทางเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวก
จวบจนมาถึงเวลาเย็น พอพลบค่ำาท่านก็ได้มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
และก็ได้ขออาศัยเรือนหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมทางเพื่อค้างคืน
ในบ้านนั้นได้มีสาวใช้คนหนึ่ง ซึ่งได้นัดแนะกับผู้ชายเอาไว้ให้มา
หาในเวลาตอนกลางคืน เธอได้นั่งคอยชายคนนั้นอยู่จนกระทั่ง
รุ่งสาง แต่ชายนั้นก็ไม่มาตามนัด เธอจึงกลับเข้าไปนอนด้วย
ความหมดหวัง
พระโพธิสัตว์ถือเอาเหตุนั้นเป็นอารมณ์ แล้วสอนตัวเอง
ว่า “ความหวังในทางมีกิเลสย่อมเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ดูอย่าง
สาวใช้คนนี้ เมื่อมีความหวังอยู่ก็ตั้งหน้ารอคอย การรอคอยเป็น
ทุกข์ที่สุดแสนจะทรมาน เพราะดูเหมือนกาลเวลาช่างผ่านไป
อย่างเชื่องช้า แต่เมื่อไม่ต้องรอคอยเพราะไม่มีความหวัง ก็ได้
เอนกายนอนหลับอย่างเป็นสุข ฉะนั้นบุคคลไม่ควรมีความหวัง