ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
พระอรหันต์ของโลก
ละสังโยชน์เบื้องต่ำาได้ ๓ อย่าง
วิธีการที่ทําให้ละได้ คือ หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง เข้าไปเรื่อยๆ
อย่างนี้แหละ และอาศัยกายธรรมพระโสดาบันพิจารณาอริยสัจ ๔
ในกายทิพย์ ก็เข้าถึงกายพระสกทาคามี จิตมีความละเอียดอ่อน
สามารถละกามราคะ และพยาบาทขั้นหยาบได้ จึงได้ชื่อว่าเป็น
พระสกทาคามีบุคคล อาศัยกายธรรมพระสกทาคามีพิจารณา
อริยสัจ ๔ ในกายรูปพรหม ทำให้สามารถปล่อยวาง ละขาดจาก
กามราคะ และพยาบาทขั้นละเอียด ใจไม่ติดในกิเลสเหล่านั้น
อีกต่อไป จิตก็ตกศูนย์เข้าไปเป็นอันหนึ่งอันเดียว กับกายธรรม
พระอนาคามี เป็นผู้มีจิตเที่ยงตรงต่อหนทางพระนิพพาน หาก
ละโลกไปแล้วก็ไม่ต้องลงมาเกิดกันอีก สามารถที่จะฝึกฝนใจให้
หยุดนิ่งอยู่บนพรหมโลก จนบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้เช่นกัน
เมื่อจิตเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมพระอนาคามีแล้ว
อาศัยกายธรรมพระอนาคามีพิจารณาอริยสัจ ๔ ในกายอรูปพรหม
พอละเอียดหนักเข้าก็สามารถละรูปราคะ อรูปราคะ มานะ
อุทธัจจะ อวิชชาได้ทั้งหมด สังโยชน์ ๑๐ เบื้องต่ำเบื้องสูงก็
หลุดหมด จิตจึงตกศูนย์วูบเข้าไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ
กายธรรมอรหัต เป็นพระอรหันต์ผู้ห่างไกลจากกิเลสแล้ว
ปราศจากความทุกข์ มีแต่สุขล้วนๆ ที่เรียกว่า เป็นเอกันตบรมสุข
เพราะฉะนั้นพระพุทธองค์จึงทรงพระนามว่า อรห์ ตอนที่ได้