ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ชีวิต พระปัจเจกพุทธเจ้า (๒)
๓๘๓
โดยพิเศษในวันที่พระปัจเจกพุทธเจ้าเสด็จมาถึง เบื้องบนต้นไม้นี้
จะเต็มไปด้วยโรงรัตนะทุกชนิดสวยงามมาก ในโรงรัตนะนั้น
จะมีลม แบ่งหน้าที่กันทำงาน คือ ลมที่ปัดกวาดเช็ดถู ก็จะทำ
หน้าที่พัดปัดกวาดเช็ดถูเสนาสนะ อย่างสะอาดปราศจากสิ่ง
สกปรกรกรุงรัง ลมที่เกลี่ยพื้นให้ราบเรียบ ก็จะทำหน้าที่พัด
เกลี่ยทรายอันวิจิตรงดงามด้วยรัตนะทั้งปวง ให้ราบเรียบดูแล้ว
สบายตา ลมที่ทำหน้าที่รดน้ำก็จะพัดนำน้ำมาจากสระอโนดาต
มารดต้นไม้ ลมที่ทำให้มีกลิ่นหอม ก็จะพัดนำกลิ่นของต้นไม้ที่มี
กลิ่นหอม มาจากป่าหิมพานต์ ลมที่โปรยก็จะพัดโปรยปราย
ดอกไม้ทั้งหลายให้ตกลงมา ลมที่ทำหน้าปูลาดอาสนะก็จะพัด
ปูลาดอาสนะไว้ในโรงอย่างเรียบร้อย เพื่อให้พระปัจเจกพุทธเจ้า
นั่งประชุม และในวันที่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายมาประชุม
กันนั้นมีอยู่ ๒ วัน คือ ในวันที่มีพระปัจเจกพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น
และในวันอุโบสถ
ฉะนั้น เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ใหม่ไปถึงที่นั้นแล้ว
ก็จะนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ แล้วพระปัจเจกพุทธเจ้าที่อยู่ใน
เงื้อมเขานันทมูลกะทั้งหมด ก็จะมานั่งประชุมและเข้าสมาบัติ
บนอาสนะที่ปูลาดไว้นั้นทันที ครั้นออกจากสมาบัติแล้วก็จะ
อนุโมทนากันและกัน หลังจากนั้นพระสังฆเถระจะสอบถาม
กรรมฐานกับพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้บรรลุใหม่ว่า ได้บรรลุเป็น