ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรระพี ประชาช
พุทธ ปาฏิหาริย์ ๓,๕๐๐ อย่าง
១៩៩
พระองค์เสด็จขึ้นทรงเรือ พระพุทธองค์เสด็จเหาะขึ้นไปประทับ
นั่งบนเรือ ชฏิลต่างสรรเสริญว่า พระมหาสมณะนี้เป็นผู้มีฤทธา
นุภาพมากจริงหนอ
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงแสดงปาฏิหาริย์
อย่างอื่นอีกมาก เพื่อให้เหล่าชฎิลเริ่มคลายทิฏฐิมานะ กลับมา
เลื่อมใสพระองค์เพิ่มขึ้น
เมื่อแสดงปาฏิหาริย์หลายๆ อย่างไปแล้ว พระองค์ทรง
ดำริว่า โมฆบุรุษเหล่านี้ มัวคิดแต่ว่าตนเองเป็นพระอรหันต์
ไม่ได้ยอมรับความจริงเลย จึงตรัสว่า “ดูก่อนกัสสปะ ท่านไม่ใช่
พระอรหันต์ ทั้งยังไม่พบทางที่จะเป็นพระอรหันต์ แม้ปฏิปทา
ของท่านที่จะไปสู่ความเป็นพระอรหันต์ก็ไม่มี ท่านอย่ามัวถือ
ทิฏฐิมานะอยู่เลย ทิฏฐิของพวกท่านจะทำให้ท่าน และมหาชน
ไปสู่มหานรก ทนทุกข์ทรมานในอบายอีกนับภพนับชาติไม่ถ้วน”
อุรุเวลกัสสปะได้ฟังดังนั้นเกิดความสังเวชสลดใจ เพราะ
รู้ว่าตนเองยังเป็นผู้มากไปด้วย ราคะ โทสะ โมหะอยู่ จึงชบ
ศีรษะลงที่พระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลขอบวชเป็น
สาวกของพระพุทธองค์ เมื่อน้องชายทั้งสองที่มีบริวารอยู่ทาง
ตอนใต้ของแม่น้ำ รู้ว่าพี่ชายบวชแล้ว จึงพากันออกบวชตามด้วย
จากนั้นพระบรมศาสดาได้ตรัสอาทิตตปริยายสูตรแก่ภิกษุ
ทั้ง ๑,๐๐๐ รูป ว่า เบญจกามคุณ ๕ คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส