ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรระพี ประช
พระสัพพัญญุตญาณ
๕๔๓
กับจิตของพระสัพพัญญูพุทธเจ้าทั้งหลายแล้วย่อมไม่ได้เสี้ยวหนึ่ง
เพราะพระสัพพัญญุตญาณของพระพุทธเจ้า เนื่องด้วยการนึก
ด้วยจิตนั้น ทันทีที่นึกก็รู้ได้ตามพระประสงค์
อุปมาเหมือนคนที่มีทรัพย์สมบัติมาก มีเครื่องกิน
เครื่องใช้ไม่ขาดตกบกพร่องขณะมีแขกมาหาซึ่งเป็นผู้ควรต้อนรับ
อาหารทุกอย่างเตรียมไว้แล้ว เพียงคดข้าวออกจากหม้อเท่านั้น
แต่แม้ข้าวยังไม่ถูกคดออกมา บุคคลนั้นก็ยังชื่อว่า เป็นผู้มีทรัพย์
มากเหมือนเดิม คือ ข้าวปลาอาหารมีพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่
บุคคลนั้น จะตักมารับประทานเมื่อไรเท่านั้น
พระสัพพัญญุตญาณก็เช่นเดียวกัน จะเกิดอานุภาพต่อ
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงอาวัชชนาการถึง คือ ทันทีที่นึก ก็รู้ได้ตาม
พระประสงค์ เหมือนต้นมะม่วงที่มีผลดกเต็มต้น ยังไม่มีผลหล่น
ลงมา ขณะรอเวลาให้ผลหล่นลงมา จะบอกว่าต้นไม้ไม่มีผลก็ไม่
ได้ เพราะต้นไม้เนื่องด้วยการหล่นลงของผลมะม่วง เมื่อผลหล่นลง
คนก็เก็บได้ตามประสงค์ พระสัพพัญญุตญาณ ก็เนื่องด้วยการ
นึกของพระพุทธเจ้าเช่นกัน หากทรงนึกก็รู้ทันที เช่นเดียวกับ
พระเจ้าจักรพรรดิ หากทรงนึกถึงจักรแก้ว จักรแก้วก็มาปรากฏ
ทันที
นี่เป็นคำอธิบายย่อๆ เกี่ยวกับความเป็นสัพพัญญู คือ