ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (หน้า 31)
เหตุูนั้น บุคคลนั้น ชื่อว่า ปฏิวาณี ผู้มีความอ่อนหวานได้ ชื่อว่า อุปปวาณี ข้อปฏิบัติเป็นส่วนเบื่องต้น กล่าวคือ สมะและวิปัสสนา ชื่อว่า อามมินุปฏิปันน ก็ปฏิปันท่านนี้ชื่อว่า อามมินา เพราะเป็นเหตุมา คือบรรลุคุณธรรมแห่งการบุกกลั่นหลากหลาย หรือเป็นเครื่องมาแห่งการบรรลุคุณธรรม ซึ่งปฏิปันนี้นั่น และชื่อว่า ปฏิปทา เพราะอันบุคคลผู้นี้ปฏิบัติ เหตุนี้ ข้อปฏิบัตินั้น จึงชื่อว่า อาคมเนีย-ปฏิปทา ความเพียรที่วันจากการท่อง คือความเพียรอันบุคคล กระทำไม่หย่อหย่อนในระหว่าง ชื่อว่า อุปปวาณูปฏิปทา. " [๔๕๐] เพราะเหตุนี้นั้น ใครๆ ไม่ควรละความเพียร. ถ้าบุคคล อาศัยใจเจียนนั้นและความเพียรเสียดายในภายหลังก็จะพูง ชึ้นให้ได้ ดังกล่าวความเพียรนะนั่น. [ เรื่องภิกษะความเพียร ] ดั้งได้รับมาภิญญานั่น เรียนกันมุตฐานในสำนักพระศาสดาแล้ว เข้าสู่ป่า แม้พยายามอยู่สิ้น ๑ เดือน ก็ไม่อาจองคุณอะไร ๆ ให้เกิดขึ้นได้ จึงคิดว่า " บรรดาบุคคล ๕ จำพวกที่พระศาสดาตรัส ไว้ เราจะพึงเป็นบุคคลจำพวกปฐม จะอรรรมรรผลจะไม่มีแก่เรา ในอดีภาพนี้, จะต้องการอะไรด้วยการอยู่ป่า เราจะไปสู่สำนักพระ ศาสดาแล้ว คงพระรูปพระพุทธเจ้า ฟังธรรมอันไพเราะอย่าง ตังนี้ แล้ว จึงกลั้นสูพระเฑดวัง. ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายทราบเหตุนี้ นำเธอไปยังสำนักพระ ศาสดา กราบทูลว่า " พระเจ้าข้า ภิกษุนี้ละความเพียรมาแล้ว. "