ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - มงคลติฎิปิเป็นเปล เล่ม ๕ หน้า บ 132
หลงเพราะโมหะกระทำแล้ว ยอมค่อย ๆ คลาย เหมือนอย่างว่า
หนังมี อันดับคนฟอกอยู่ตั้ง ๑๐๐ ครั้ง ยอมเป็นหนังไม่ขวัญใจใด
กรรมอันคนหลงเพราะโมหะกระทำแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกันเลย ยอม
ไมคลายเร็ว คือค่อย ๆ คลายไปเท่านั้น."
ฤทธิ์จิตติฎีสูตรนั้นว่า " บัณฑิตพิทิพงามเนื้อความในคำว่า โก
อธิปปายโล นี้ ในพระบาลว่า ( บรรดาธรรม ๓ ประการนั้น ) มี
อะไรเป็นเครื่องประกอบให้ต่างกัน ตามว่า โลกเชษฐ์เสน ความว่า
ด้วยสามารถแห่งโทษอันโลกยมาหลายพิสูจน์เตียนโดยปกติ บทว่า วิปป-
วุชชวน คือ ด้วยสามารถแห่งโทษอิเป็นวิบาก อันยังสัตว์ให้เป็น
ไปพร้อมในอวย."
[๕๒๙] กิเลสทั้งหลายมีรเป็นต้นนั่น เป็นกิเลสแตกต่างกัน
โดยโมหิมความเป็นกิเลสคลายช้าบ้างต้น ก็จริง ถึงฉนั้น ก็ชื่อว่า
เสมอเป็นอันเดียวกันแท้ เพราะความเป็นกิเลสเสมอเป็นเหตุแห่งความมิดเมน.
ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค จึงตรัสเสกิจภิกษุทั้งหลายว่า
" ความโลก ยังความอินทะยไรประโยชน์ให้
เกิด ความโลก ยังจิตใจให้รก. ชนย่อมไม่
หยั่งรู้ซึ่งภัยนั้น อันเกิดแล้ว ณ ภายใน, คนโลก
ย่อมไม่รู้รอด, คนโลก ย่อมไม่เห็นธรรม.
ความโลก ย่อมครอบงำจิตใจคนใดใจ; ความ
มีดมน ย่อมมีในโลกนั้น. โถสะ ยังความ
จิฬายไรประโยชน์ให้เกิด. โถสะ ยังจิตให้