ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - มังคลัตถทีปิ้นแปล เล่น ๕ หน้าที่ 6
อินทรีย์ทั้งหลาย."
ปรกานวิสาส์สัอวิสุทธิธรรมว่า "หลายทว่า จะญาณ รูป ทีสิขวาม
ความว่า เห็นรูปได้ด้วยญาณอันอัสสัมฤทธิ์ซึ่งสามารถในการเห็นในอัน
ได้ไวหารว่า จักฺ ฯ ด้วยอำนาจแห่งเหตุ. บางว่า น มิวุตุตกคติ
ความว่า ภัญฺญไม่มีดือซึ่งสตรีมินินและบูรณิมิต หรือมินิมอันเป็น
ที่ตั้งแห่งกิเลสสุคตินิมิเป็นต้น คืออ่อนตั้งอยู่ในมโนสัถว่าเห็นแล้ว
เท่านั้น. ท่านว่า นาพยญูญญาณความว่า ไม่ดีคิดซึ่งอาการอ่อน
ต่างโดยมือ เท้า การหัวเราะ ยิ้มแย้ม เจรจา และ เสล่อคือต้น
อันได้ไว้หารว่า อนุพยัญชนะ เพราะปรากฏเนื่อง ๆ คือการกระทำ
ความเป็นของปรากฏแห่งกิเลสทั้งหลาย ได้แก่ ดือลือหรือว่าน้อย
ใหญ่อื่นมีอยู่ในสรีระนั้นอย่างเดียว. ในว่ากา ตุวาสถุกเมน เป็น
ต้น พึงทราบวินิจฉัยดังนี้: ธรรมมีอิทธิพลเป็นต้นเหลา่นั้น พึงอ่าน
ไปตาม คืออิทธิมบุคคลผู้นั้น คือตามไม่สำรวมนินทร์คืออัญฺฑ์ได้แก่
เป็นผู้ไม่ปิดจุปฏิวารด้วยบาปประตูคอศติอจิษยุเพราะเหตุใด? คือ
เพราะเหตุง่านไม่สำรวมอินทรีย์คืออัญฺฑ์หลายทว่า ตสุท
สวยๆ ปฏิชญัติ ความว่า ย่อมปฏิบัติเพื่อประโยชน์ แก่การปิด
อินทรีย์คืออัญฺฑ์นั้น ด้วยบาปประตูคอศติ. ก็ภิกษุผู้ปฏิบัติอยู่โดยอาการ
อย่างนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกว่า ย่อมรักษานอินทรีย์คืออัญฺฑ์ว่า
บ้างว่า "ย่อมถึงความสำรวมในอิทธิฤทธิ์อัญฺฑ์บ้าง."
[๔๕๕] กุภาอิสสาทิธิมรรมว่า "บทว่า การถวาเสน คือ ด้วย