การเข้าใจอินทรีย์และญาณในพุทธศาสนา มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม 5 หน้า 6
หน้าที่ 6 / 174

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอการวิเคราะห์เกี่ยวกับอินทรีย์และญาณในพุทธศาสนา โดยเน้นการเห็นรูปได้ด้วยญาณอันอัสสัมฤทธิ์และความสัมพันธ์กับกิเลส นอกจากนี้ยังมีการอธิบายเกี่ยวกับตำแหน่งและบทบาทของอินทรีย์ที่มีอิทธิพลต่อการกระทำและการคิดในชีวิตของบุคคล เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการปฏิบัติเพื่อการบรรลุธรรมและการเข้าถึงความสำรวมในอิทธิฤทธิ์.

หัวข้อประเด็น

-อินทรีย์ในพุทธศาสนา
-บทบาทของญาณ
-การปฏิบัติและกิเลส
-ความสัมพันธ์ระหว่างธรรมและการกระทำ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - มังคลัตถทีปิ้นแปล เล่น ๕ หน้าที่ 6 อินทรีย์ทั้งหลาย." ปรกานวิสาส์สัอวิสุทธิธรรมว่า "หลายทว่า จะญาณ รูป ทีสิขวาม ความว่า เห็นรูปได้ด้วยญาณอันอัสสัมฤทธิ์ซึ่งสามารถในการเห็นในอัน ได้ไวหารว่า จักฺ ฯ ด้วยอำนาจแห่งเหตุ. บางว่า น มิวุตุตกคติ ความว่า ภัญฺญไม่มีดือซึ่งสตรีมินินและบูรณิมิต หรือมินิมอันเป็น ที่ตั้งแห่งกิเลสสุคตินิมิเป็นต้น คืออ่อนตั้งอยู่ในมโนสัถว่าเห็นแล้ว เท่านั้น. ท่านว่า นาพยญูญญาณความว่า ไม่ดีคิดซึ่งอาการอ่อน ต่างโดยมือ เท้า การหัวเราะ ยิ้มแย้ม เจรจา และ เสล่อคือต้น อันได้ไว้หารว่า อนุพยัญชนะ เพราะปรากฏเนื่อง ๆ คือการกระทำ ความเป็นของปรากฏแห่งกิเลสทั้งหลาย ได้แก่ ดือลือหรือว่าน้อย ใหญ่อื่นมีอยู่ในสรีระนั้นอย่างเดียว. ในว่ากา ตุวาสถุกเมน เป็น ต้น พึงทราบวินิจฉัยดังนี้: ธรรมมีอิทธิพลเป็นต้นเหลา่นั้น พึงอ่าน ไปตาม คืออิทธิมบุคคลผู้นั้น คือตามไม่สำรวมนินทร์คืออัญฺฑ์ได้แก่ เป็นผู้ไม่ปิดจุปฏิวารด้วยบาปประตูคอศติอจิษยุเพราะเหตุใด? คือ เพราะเหตุง่านไม่สำรวมอินทรีย์คืออัญฺฑ์หลายทว่า ตสุท สวยๆ ปฏิชญัติ ความว่า ย่อมปฏิบัติเพื่อประโยชน์ แก่การปิด อินทรีย์คืออัญฺฑ์นั้น ด้วยบาปประตูคอศติ. ก็ภิกษุผู้ปฏิบัติอยู่โดยอาการ อย่างนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกว่า ย่อมรักษานอินทรีย์คืออัญฺฑ์ว่า บ้างว่า "ย่อมถึงความสำรวมในอิทธิฤทธิ์อัญฺฑ์บ้าง." [๔๕๕] กุภาอิสสาทิธิมรรมว่า "บทว่า การถวาเสน คือ ด้วย
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More