ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- มัจจุราชนี้เป็นแปลเล่ม ๕ หน้า ๙๕
พระพุทธคุณแห่งคาถาที่ ๑๐°
[๕๙๕] พึงทราบวินิจฉัยในคาถาที่ ๑๐ ต่อไปนี้ว่า ผู้อรรถสูง ได้แก่อัธนโทษธรรมฤทธิ์คือกระทบ ประอวม ครองนั่งเสล่
ว่า โลกมุติมี ได้แแก่ อันโลกธรรมทั้ง ๘ มีลาและเสื่อมลา เป็นต้น ศัพท์ว่า โลกมุติมี เป็นคำภายใน ผู้อรรถ ศัพท์ว่า น แต่ กมปติ ได้แก่น ไม่หวั่นไหว คือไม่ละเทอ. กล่าวว่า อโลคิ คือ ไม่ มีโทษ ได้แก่มิ มิตกศรคือความโกลาหลอันอึนขึ้นแล้ว กล่าวว่า วิริยะ ได้แก่ ปราศจากอโลคิเพียงดังฤทธิ์ คือมีกาลสุดฤทธิ์อันก่อแล้ว กล่าวว่า เขม ได้แก่ ไม่มีภัย คือไม่มีอุปาทะ
ในคาถาที่ ๑๐ นั้น มีอาจประกอบดังนี้ว่า "เทพดา ท่านองค์ ถือว่ายังของบุคคลใด อันโลกธรรมฤทธิ์ต้องแล้ว ไม่หวั่นไหว จิต นันของบุคคลนั้น เป็นอุดมมงคล จิตของบุคคลใด ไม่มีความใคร จิตของบุคคลใด ปราศจากอโลคิแล้ว คือมีกลสุดฤทธิ์อันก่อแล้ว กล่าวว่า เขม เป็นอันมงคลอีกประการหนึ่ง ในว่า ยาสุ แม้นาคานี้ ตัด (บท) ว่า ย่อ อาสุ ก็อุ เหมือนอย่าง
ว่า ยาสุ ตัด (บท) เป็น ยอ อาสุ ในอภาษนี้ว่า "พราหมณ์ ชนเหล่านี้ใด เป็นมรรคดีก็ตาม เป็นบิดาคดีของาม ของกุลฎุตรนั้น
อยู่ในโลกนี้ ดังนี้เป็นต้นฉะนั้น
* พระมหาวิน ธมฺมสาริโป ช.ธ.๙ วัรชาธิวาส แปล. (บัดนี้เป็นสมเด็จพระมหาวรวงศ์ วัดราชผาติการาม) ๑ อง สุตก. ๒๓/๕๙.