ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๕- มังคลัตถทีปิเป็นแปล เล่ม ๕ หน้า ๑๑๓
ยาจีก็กล่าวว่า "กิญฺจาปิ" เป็นต้น ความคิดอันกำเิรบ หรือความ
เหือดแห้ง ณ ภายในนั้นแหละ อันวันจากความเป็นผู้แก่กล้า คือชื่อ
ความกรมเกรียม ณ ภายใน ได้แก่ ความหม่นไหม้ ความเสร็จใจ
อันสมควรแก่ความเสื่อมมีความเสื่อมฤติเป็นต้น ชื่อว่าความเศร้าโศก
เนื่อง ๆ เป็นต้น ความเศร้าใจ คือความเดือดร้อนตามคุณ
หรือโทษนั้น ๆ ก็ชื่อว่าความเศร้าโศกเนื่อง ๆ
อนุภูมิว่า "ด้วยบทว่า สมุจิตอนุต" นี้ ท่านกล่าวความเป็น
ไปแห่งความไม่ดีงามในอารมณ์ เพราะเป็นปฏิปัตต่ออิตและโสมสั
และเพราะประกอบกับโทสะ อีกอย่างหนึ่ง ความเพ่งพิณิจ คือความคิด
ด้วยสามารถแห่งความแค้นแผนสันษัยของตน ณ ภายใน ชื่อว่าความกรม
เถรียม ณ ภายใน บัณฑิตพิษทราบความแปลกกันแห่งความรำคาญ
และความโศกทั้ง ๒ ดังนี้ว่า "เมื่อความเศร้าโศกเนื่อง ๆ อยู่ ความ
เคียดร้อนก็ภูฏลุกลัดอุณหภูมิจะทำแล้วและไม่กระทำแล้ว เป็นอารมณ์
ตามที่กล่าวแล้ว ชื่อว่า ความโศก."
[๕๒] เพราะเหตุนั้น บุคคลอันอันทุกธรรมถูกต้องแล้ว ก็
ไม่ควรเศร้าโศก ประคุชชนทั้งหลายมึง ๕ คนเป็นต้น ในอดีตกาล
ไม่เศร้าโศก นั่นนั้น.
[เรื่องชน ๕ คน]
ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เป็นพราชมาณี ในครองพราหมณ์ สี ลี้ยง
ชีวิตด้วยกลิกรรม พระโพธิสัตว์วันนี้ มีมุตร ๒ คน คือ ชาย ๑ หญิง ๑