ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค5- มังคลดาหิ มังคลตา เป็นปฐวี
จึงกล่าวไว้ว่า มวย จ ตุมหิ จ. ส่วนใน
วิปัที่ 2 ทำความดีทั้ง 2 เป็นกาวสาระไว้ในหยี จึงกล่าว
ไว้ด้วยสารธรรมแห่งตามที่ผู้มีพระภาคตรัสไว้นั้นเองว่า มม เงอะ
ตุมหลกญ. ออกสังขาร ย่อมาจากคนแห่งสัตว์ที่ตนผูแล้ว
ด้วยเชือกคือต้นหา ไปสู่ผู้อื่นด้วยต้นหน้านั้น ประหนึ่งว่าบุญมี
เชือกในมือ นำกที่ตนผูกไว้ด้วยเชือกยาวไปสู่ประเทศอื่น เหตุนั้น
ตินหานั้น จึงชื่อว่า ภานุตติ (เป็นเครื่องนำไปสู่สงสาร).
คำคำว่า ภานุตติ (เป็นเครื่องนำไปสู่สงสาร).
[๕๕๕] พระผู้มีพระภาค เมื่อจะทรงแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลาย
จึงตรัสว่าเป็นอากาไวในกุญยมสูตร ที่ ๒ ในสังคสังมันเองว่า
"มมหาพราหมณ์แห่งน้ำใจ ไม่รู้จักทุกข์ ทั้งไม่รู้จัก
แดนเกิดของทุกข์ ทั้งไม่รู้จักพระนิพพานอันเป็น
ที่ดับไม่เหลือโดยประการทั้งปวง แห่งทุกข์ ทั้งไม่
รู้จักมรรค อันมีอยู่เดินสู่สวรรคะนะความระทมทุกข์,
สมณพราหมณ์เหล่านั้น เป็นผู้เสวยแล้วจาก
เจโตปมุตติ และจากปัญญาวิชามุตติ สมณพราหมณ์
เหล่านั้น เป็นผู้ไม่ควรเพื่ออนาคตที่สุุด สมณ-
พราหมณ์เหล่านั้นต้องเป็นผู้บึงยังชาติและชร.
ส่วนสมณพราหมณ์เหล่าใด ย่อมรู้ว่าร้สยทุกข์
ทั้งรู้ว่าชงแดนเกิดของทุกข์ ทั้งรู้ว่าชงพระนิพพาน