ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปาปิจฉา คือ ความอยากได้โดยวิธีวิธีสกปรก อยากได้โดยวิธีต่ำๆ เลว เป็นคน
เห็นแก่ตัวอย่างแรง ใครจะดูถูกเหยียดหยามก็ไม่สนใจให้ตัวเองได้เป็นพอ เช่น อยากได้สตางค์เลย
ไปเล่นการพนัน ไม่รักษาเกียรติ ไม่รักษาชื่อเสียงของตน ทำการเอารัดเอาเปรียบผู้โง่เขลากว่า
หาเลี้ยงชีพในทางต่ำ มีการเป็นโสเภณี เป็นต้น
โลภะ ความอยากได้โดยวิธีทุจริต อยากได้ในทางที่ไม่ชอบ เช่น ลัก ปล้น ฉ้อโกง ตีชิง
หลอกลวงวิธีอื่น ๆ แต่ยังไม่แสดงออก ความโลภนี่เองที่เป็นอกุศลมูล เป็นรากเหง้าของ
ความชั่วสายโลภะ เมื่อโลภะนี้ขยายตัว ก็จะทำให้กรรมเกิดขึ้น โดยเริ่มต้นจากมโนกรรม
อภิชฌา ความเพ่งเล็งทรัพย์ของผู้อื่น จ้อง ๆ จะเอาของเขา แต่ยังสงวนท่าที ไม่แสดงออก
อภิชฌาวิสมโลภะ ความโลภอย่างแรงจนกระทั่งแสดงออกมา เช่น ปล้นจี้ ลักขโมย
เมื่อพูดถึงวงจรของชีวิตสรรพสัตว์ เป็นธรรมดาที่ว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ในวังวนของ
สังสารวัฏ ยังต้องมีการเวียนตายเวียนเกิดไม่มีวันจบสิ้น ตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลส กิเลสก็จะ
คอยบังคับให้ทำกรรม และเมื่อทำกรรมก็ย่อมทำให้เกิดวิบาก วิบากก็จะส่งผลให้เกิด และทำกรรม
ใหม่ๆ อยู่ร่ำไป และเกิดเป็นวงจรซ้ำ ๆ ไปเรื่อยๆ จนยากที่หาจุดจบได้ ตราบใดที่สรรพสัตว์
ทั้งหลายยังไม่รู้หนทางเพื่อการหลุดพ้นจากสังสารวัฏ ชีวิตนี้ก็จะต้องเวียนวนต่อไปในการศึกษา
วิปัสสนาอันเป็นเส้นทางเพื่อให้เห็นและเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสภาพชีวิตที่กำลังเวียนว่ายตายเกิด
ในสังสารวัฏ จึงควรที่จะศึกษาและทำความเข้าใจถึงมูลเหตุแห่งสังสารวัฏ คือ กิเลสก่อนในเบื้องต้น
ให้รู้จักหน้าตา สภาพการบังคับ และการส่งผลว่ามีลักษณะเป็นเช่นไร
2. ลักษณะของกิเลสตระกูลโทสะ
กิเลสจำพวก โทสะ ได้แก่ กิเลสจำพวกทำให้จิตร้อน อยากล้างผลาญ อยากทำความพินาศ
ให้แก่คนอื่น สิ่งอื่น กิเลสพวกนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้จิตเดือดพล่าน ในพระอภิธรรมปิฎก
ธรรมสังคณีปกรณ์ แสดงลักษณะของโทสะไว้ดังนี้
“อาฆาตย่อมเกิดขึ้นได้ด้วยคิดว่า ผู้นี้ได้กระทำความเสื่อมเสียแก่เรา
อาฆาตย่อมเกิดขึ้น ได้ด้วยคิดว่า ผู้นี้กำลังทำความเสื่อมเสียแก่เรา อาฆาต
ย่อมเกิดขึ้นได้ด้วยคิดว่าผู้นี้จักทำความเสื่อมเสียแก่เราอาฆาตย่อมเกิดขึ้นได้
ด้วยคิดว่า ผู้นี้ได้ทำความเสื่อมเสีย ฯลฯ กำลังทำความเสื่อมเสีย ฯลฯ
จักทำความเสื่อมเสียแก่คนที่รักชอบพอของเรา
30 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน