ข้อความต้นฉบับในหน้า
หมู่สัตว์ผู้เกิดเป็นอยู่เหล่านี้ ประกอบด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ติเตียนพระ
อริยเจ้าเป็นมิจฉาทิฏฐิ ยึดถือการกระทำด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิหมู่สัตว์ผู้เกิดเป็นอยู่เหล่านั้นเบื้อง
หน้าแต่แตกกายตายไป เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
หรือว่าหมู่สัตว์ผู้เกิดเป็นอยู่เหล่านี้ ประกอบด้วยกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต
ไม่ติเตียนพระอริยเจ้าเป็นสัมมาทิฏฐิยึดถือการกระทำด้วยอำนาจสัมมาทิฏฐิหมู่สัตว์ผู้เกิดเป็นอยู่
เหล่านั้น เบื้องหน้าแต่แตกกายตายไป เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เราย่อมเล็งเห็นหมู่สัตว์ผู้กำลังจุติ กำลังอุบัติ เลว ประณีตมีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม
ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เข้าถึง
ตามกรรมด้วยประการดังนี้”
3.5 ลักษณะของกรรมและวิบากกรรม
กรรมดีหรือกรรมชั่วที่บุคคลได้กระทำไว้ มิได้สูญหายไปไหน แต่จะคอยติดตามบุคคล
ผู้กระทำอยู่เสมอ เหมือนเงาติดตามตัว
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแยกลักษณะของกรรมและการให้ผลของกรรมต่าง ๆ ไว้
ดังจะได้แสดงต่อไป
3.5.1 ลักษณะการให้ผลของกรรม
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงกรรมและการให้ผลของกรรมไว้ในกุกกุโรวาทสูตร คือ
“ดูก่อนปุณณะ กรรม 4 ประการนี้... กรรมดำมีวิบากดำมีอยู่ กรรมขาวมี วิบากขาว
มีอยู่ กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาวมีอยู่ กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว
เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมมีอยู่”
มีคำอธิบายดังนี้
1. กรรมดำ มีวิบากดำ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อันเป็นไปเพื่อความเบียดเบียน
บุคคลนั้นย่อมเกิดในโลกที่มีการเบียดเบียน เมื่อเกิดในโลกที่มีการเบียดเบียนเช่นนั้น เขาย่อม
ได้กระทบกับผัสสะที่มีการเบียดเบียน ย่อมได้เสวยเวทนาอันเป็นไปเพื่อความเบียดเบียน
มีความทุกข์โดยส่วนเดียว เช่นเดียวกับสัตว์นรกทั้งหลาย
1 วินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค, มก. เล่มที่ 1 หน้า 8.
2 กุกกุโรวาทสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ คหปติวรรค, มก. เล่มที่ 20 ข้อ 88 หน้า 189.
บ ท ที่ 3 ก ร ร ม - ว บ า ก
DOU 55