ข้อความต้นฉบับในหน้า
3. เป็นความจริงที่ทำบุคคลผู้เข้าถึงให้เป็นอริยชน แม้เดิมทีเดียวเป็นปุถุชน แต่เมื่อมา
รู้แจ้งในอริยสัจ 4 ครบถ้วนบริบูรณ์ทุกประการแล้ว ย่อมแปรสภาพจากปุถุชนเป็นอริยชนไปทันที
เหมือนคนจนเมื่อมีทรัพย์ขึ้นก็กลายเป็นเศรษฐีไป
4. เป็นความจริงอันทำให้บุคคลผู้ปฏิบัติตามห่างไกลจากข้าศึก ในทางพระพุทธ
ศาสนานั้น ข้าศึกมี 2 อย่าง คือ ข้าศึกภายนอก อันได้แก่ ผู้มุ่งร้ายต่อเรา และข้าศึกภายใน คือ
กิเลสซึ่งเป็นข้าศึกอันร้ายกาจของบุคคล โรครบกวนกายให้ไร้ความสงบสุขอย่างไร กิเลสก็
รบกวนใจให้ปราศจากความสงบสุขอย่างนั้น บรรดาข้าศึกทั้ง 2 อย่างนั้น กิเลสดูเหมือนจะเป็น
ข้าศึกที่ร้ายแรงกว่า เพราะรบกวนใจทุกวันและอิงอาศัยอยู่กับเรา หลอกล่อเราให้ลุ่มหลงแล้ว
ทำร้ายในภายหลัง
ผู้แจ่มแจ้งในอริยสัจย่อมสามารถกำจัดศัตรูภายในได้ห่างไกลจากศัตรูภายใน คือ กิเลส
ส่วนศัตรูภายนอกนั้นอย่างน้อยที่สุดก็เบาบางลง เพราะบุคคลเช่นนั้นย่อมไม่ก่อศัตรูกับใคร
ไม่มีเวรมีภัยกับใคร จะมีก็แต่ผู้อื่นตั้งตนเป็นศัตรูกับท่านเอง แต่ท่านก็หาเป็นศัตรูด้วยไม่
ความรู้สึกว่าไม่มีศัตรูเป็นความปลอดโปร่งแจ่มใส เป็นความสุขที่เห็นได้ในปัจจุบัน
9.2 ความสำคัญของอริยสัจ
อริยสัจเป็นหัวข้อธรรมสำคัญอย่างยิ่งหัวข้อหนึ่งในหลักคำสอนสำคัญของพระสัมมา
สัมพุทธเจ้า จะเห็นได้จากหลักฐานต่อไปนี้
1. พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปฏิญาณพระองค์ว่าเป็นสัมมาสัมพุทธะเพราะทรงรู้แจ้งใน
อริยสัจ ความข้อนี้ปรากฏอยู่ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ที่ทรงแสดงเป็นครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์
นั่นเอง ว่า
“ปัญญาอันรู้เห็นตามเป็นจริงของเราในอริยสัจ 4 นี้ มีรอบ 3 มีอาการ 12 อย่างนี้
ยังไม่หมดจดดีแล้วเพียงใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรายังยืนยันไม่ได้ว่า เป็นผู้ตรัสรู้สัมมา-
สัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยมในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลกในหมู่สัตว์ พร้อมทั้ง
สมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ เพียงนั้น
1 วศิน อินทสระ, หลักธรรมอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา, กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ธรรมดา, 2544, หน้า 13-14.
บ ท ที่ 9 อ ริ ย สั จ 4
DOU 177