ข้อความต้นฉบับในหน้า
5.3.4 สังขารขันธ์
สังขารขันธ์ หมายถึง ความคิดปรุงแต่ง คือ เมื่อรูปกระทบตา ประสาทตาก็รับเอาไว้
ก่อให้เกิดเวทนา การรับอารมณ์แล้วส่งไปให้ส่วนจำอารมณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นจึงส่งมาให้ส่วนที่
ทำหน้าที่คิด ปรุงแต่งจิตให้คิดไปในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
1. ความคิดดี เรียกว่า กุศลสังขาร
2. ความคิดชั่ว เรียกว่า อกุศลสังขาร
3. ความคิดไม่ดีไม่ชั่ว เป็นกลาง ๆ เรียกว่า อัพยากตสังขาร
สังขารขันธ์มีความสำคัญต่อความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์มากเป็นตัวสำคัญในพวกเจตสิก
เพราะมีอานุภาพปรุงแต่งให้คนเป็นไปได้ต่างๆ จิตของคนจะดีจะชั่วก็เพราะสังขารเป็นตัวปรุงแต่ง
สังขารขันธ์มีดังนี้ คือ ผัสสะ เจตนา วิตก วิจาร ปีติ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา
ชีวิตินทรีย์ การละนิวรณ์ อโลภะ อโทสะ หิริ โอตตัปปะ ปัสสัทธิ ฉันทะ อธิโมกข์ อุเบกขา มนสิการ
โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ อุทธัจจะ กุกกุจจะ วิจิกิจฉา โกสัชชะ อหิริกะ อโนตตัปปะ
และเจตสิกธรรมอื่น ๆ ยกเว้นเวทนาและสัญญาแล้ว นอกจากนั้นเป็นสังขารขันธ์ เพราะเวทนา
และสัญญาเป็นส่วนที่อยู่ในขันธ์ 5 เช่นเดียวกับสังขาร รวมความแล้วสังขารจะหมายถึงเฉพาะ
กิเลสและคุณธรรมทั้งปวง
5.3.5 วิญญาณขันธ์
วิญญาณขันธ์ หมายถึง ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ ความรู้แจ้งอารมณ์ ความรับรู้เรื่องราว
ต่าง ๆ ได้ คือ ความรู้แจ้งทางทวารทั้ง 6 ได้แก่ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และ
ทางใจ หรือเป็นความรู้ที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายในและอายตนะภายนอกกระทบกัน
วิญญาณมีอยู่ 2 อย่าง คือ วิญญาณธาตุ และวิญญาณขันธ์
วิญญาณธาตุ หมายถึง จิต
วิญญาณขันธ์ หมายถึง อาการของจิต
ดังนั้น วิญญาณในขันธ์ 5 จึงหมายถึง การรับรู้อารมณ์ที่ผ่านเข้ามาทางตา หู จมูก ลิ้น
กาย และใจ มีอยู่ 6 อย่าง เรียกชื่อตามช่องทางที่ผ่านเข้ามาดังนี้
1 วศิน อินทสระ, อธิบายมิลินทปัญหา, กรุงเทพฯ : เจริญกิจ, 2528, หน้า 8.
94 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน