ความทุกข์และขันธ์ 5 ในพระพุทธศาสนา MD 408 สมาธิ 8 หน้า 191
หน้าที่ 191 / 265

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจและวิเคราะห์ความหมายของทุกข์ตามหลักพระพุทธศาสนา โดยแบ่งความทุกข์ออกเป็น 2 ประเภท คือ ทุกข์ที่เกิดจากร่างกาย เช่น การทำงานหนักแต่ไม่มีผลสำเร็จ และทุกข์ที่จิตใจ เช่น ความปรารถนาที่ไม่สมหวัง ซึ่งสรุปได้ว่าทุกข์ทั้งสองประเภทนี้เกิดจากการยึดมั่นในขันธ์ 5 ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขันธ์ 5 เป็นภาระหนักที่ต้องดูแลและรักษา ในขณะที่กิเลสนำไปสู่ความร้อนรุ่มและทุกข์ทรมาน ความเข้าใจในธรรมชาติของทุกข์นี้สำคัญต่อการปฏิบัติวิปัสสนาเพื่อให้เห็นถึงความเป็นจริงของการมีชีวิตและความทุกข์.

หัวข้อประเด็น

-ประเภทของความทุกข์
-ขันธ์ 5 และภาระที่หนัก
-การปฏิบัติวิปัสสนา
-กิเลสและความทุกข์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

11. ยัมปิจฉัง น ลภติทุกข์ คือ ความปรารถนาสิ่งใดแล้ว ไม่ได้สิ่งนั้นสมปรารถนา ความทุกข์นี้แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ทุกข์ประกอบในกาย ได้แก่ การที่บุคคลซึ่งประกอบอาชีพ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกสิกรรม หรือ พาณิชยกรรม เมื่อทุ่มเทแรงกายแรงใจให้แก่การงานอาชีพ โดย มิได้ย่อท้อต่อความลำบากตรากตรำ แต่ไม่สามารถสำเร็จประโยชน์ จึงเศร้าโศกเสียใจ กับทุกข์ประกอบในจิต ได้แก่ ความปรารถนายศถาบรรดาศักดิ์ ตลอดจนลาภสักการะเงินทอง แต่ไม่สามารถสำเร็จสมเจตนา กล่าวโดยสรุป ทุกข์ได้ปรากฏแก่ตัวเรา เป็นความทุกข์รวบยอด ความทุกข์เหล่านี้ เมื่อกล่าวโดยสรุปอีกอย่างหนึ่งมีเพียง 2 คือ ทุกข์ทางกาย และความทุกข์ทางใจ ที่ทรงแจกแจง ออกไปถึง 11 ประการ ก็เพื่อให้เห็นรายละเอียดแห่งทุกข์ที่มนุษย์ประสบอยู่ว่ามีประการใดบ้าง อนึ่ง ความทุกข์เหล่านี้มีขึ้นได้ก็เพราะมีขันธ์ 5 และมนุษย์เรายังยึดมั่นในขันธ์ 5 นั้น ว่าเป็นเรา เป็นของเราอยู่ ความจริงแล้วขันธ์ 5 นี้ เป็นภาระหนักของมนุษย์และสัตว์ดิรัจฉานทั้งหลาย เพียงรูปขันธ์ อย่างเดียวก็เป็นภาระอันหนักเพราะต้องถนอมปรนเปรอ เลี้ยงดูด้วยข้าว น้ำ วันละหลาย ๆ ครั้ง จนตลอดชีวิต ยิ่งเวลาเจ็บป่วยก็จะเป็นภาระอันหนักยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นพระพุทธองค์จึงทรง แสดงไว้ว่า ภารา หเว ปญฺจกฺขนฺธา ภาร-นิกเขปน์ สุข ขันธ์เป็นภาระอันหนักแท้ การปลงภาระอันนี้เสียได้เป็นความสุข ส่วนนามขันธ์เป็นภาระอันหนักเพราะกิเลสมาทำให้หนัก เร่าร้อนอยู่เพราะกิเลสทำให้ ร้อน สมดังข้อความที่ทรงแสดงไว้ในอาทิตตปริยายสูตรว่า “ร้อนเพราะไฟ คือ ราคะบ้าง โทสะ บ้าง โมหะบ้าง เพราะเกิด แก่ ตาย...บ้าง” ซึ่งรวมเป็นเพลิง 2 อย่าง คือ เพลิงกิเลสและเพลิง ทุกข์' ทุกข์จึงถือเป็นเรื่องแรกที่บุคคลผู้จะเจริญวิปัสสนาจะต้องเห็นและเข้าใจตามความเป็นจริง โดยการเห็นนี้จะไม่ใช่เพียงการเห็นแบบทั่ว ๆ ไปด้วยการพิจารณาเช่นนี้ แต่ต้องอาศัย ภาวนามยปัญญามองให้เห็นตัวทุกข์ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร อาทิตตปริยายสูตร วินัยปิฎก มหาวรรค, มก. เล่ม 4 ข้อ 62 หน้า 55. บ ท ที่ 9 อ ริ ย สั จ 4 DOU 181
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More