ความหมายของนิพพานในพุทธศาสนา MD 408 สมาธิ 8 หน้า 196
หน้าที่ 196 / 265

สรุปเนื้อหา

นิพพานแบ่งออกเป็น 2 นัย คือ สอุปาทิเสสนิพพาน ที่ดับกิเลสแต่เบญจขันธ์ยังคงอยู่ เช่น พระอรหันต์ที่ยังมีชีวิต และอนุปาทิเสสนิพพาน ที่ดับทั้งกิเลสและเบญจขันธ์ เช่น พระอรหันต์ที่สิ้นชีวิตแล้ว สอุปาทิเสสนิพพานยังหมายถึงการดับกิเลสบางส่วน เช่น นิพพานของพระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี พระอริยบุคคล 4 จำพวก ได้แก่ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ โดยที่การบรรลุนิพพานคือการดับทุกข์ที่เป็นความต้องการของมนุษย์อย่างแท้จริง สามารถดับได้ด้วยการกระทำที่ถูกต้อง ดับทุกข์ได้ในระดับหนึ่งหรืออาจจะเป็นการดับทุกข์แบบมีเทียมๆ ถ้าไม่ทำตามวิธีการที่ถูกต้องก็จะไม่สามารถดับทุกข์ได้อย่างแน่นอน

หัวข้อประเด็น

-นิพพาน
-สอุปาทิเสสนิพพาน
-อนุปาทิเสสนิพพาน
-พระอริยบุคคล 4 จำพวก
-การดับทุกข์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ท่านแสดงนิพพานไว้ 2 นัย คือ 1. สอุปาทิเสสนิพพาน หมายถึง การดับกิเลสหมดแล้ว แต่เบญจขันธ์เหลืออยู่ เช่น พระอรหันต์ที่ยังมีชีวิตอยู่ 2. อนุปาทิเสสนิพพาน หมายถึง การดับกิเลสหมดแล้ว และดับเบญจขันธ์แล้วด้วย เช่น พระอรหันต์ที่สิ้นชีวิตแล้ว ที่ได้กล่าวมานี้ เป็นนัยที่ 1 ส่วนนัยที่ 2 มีว่า สอุปาทิเสสนิพพาน หมายถึง ดับกิเลสได้แล้ว เป็นบางส่วน ยังเหลืออยู่บางส่วน เช่นนิพพานของพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี อนุปาทิเสสนิพพาน หมายถึง ดับกิเลสไม่มีส่วนเหลือ ดับกิเลสได้หมด เช่น นิพพานของ พระอรหันต์ พระอริยบุคคล 4 จำพวก ผู้บรรลุนิพพานแล้วตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป เรียกว่า พระอริยบุคคล คือ ผู้ประเสริฐ มีคุณธรรมสูง มี 4 จำพวกด้วยกัน คือ 1. พระโสดาบัน ละสังโยชน์กิเลส (กิเลสซึ่งหน่วงเหนี่ยวสัตว์ไว้ในภพ) ได้ 3 อย่าง คือ สักกายทิฏฐิ ความเห็นว่า ขันธ์ 5 เป็นตัวตนหรือของตน วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในคุณ พระรัตนตรัยในทางดำเนินให้ถึงนิพพาน สีลัพพตปรามาส การลูบคลำศีลและพรต กล่าวคือ มิได้ประพฤติศีลหรือบำเพ็ญพรตเพื่อความบริสุทธิ์ และเพื่อความขัดเกลากิเลส แต่เพื่อลาภ สักการะ ชื่อเสียง เป็นต้น การประพฤติศีลบำเพ็ญพรตอย่างงมงายก็อยู่ในข้อนี้ด้วยเช่นกัน 2. พระสกทาคามี ละสังโยชน์ได้เหมือนพระโสดาบัน แต่มีคุณธรรมเพิ่มขึ้น คือ ทำราคะ โทสะและโมหะให้เบาบางลงได้ 3. พระอนาคามี ละกิเลสเพิ่มขึ้นอีก 2 อย่าง คือ กามราคะ ความกำหนัดในกามคุณ และปฏิฆะ ความหงุดหงิดรำคาญใจ 4. พระอรหันต์ ละสังโยชน์เพิ่มขึ้นอีก 5 อย่าง คือ รูปราคะ ความติดสุขในรูปฌาน อรูปราคะ ความคิดสุขในอรูปฌาน มานะ ความทะนงตน อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน และอวิชชา ความไม่รู้ตามจริง นิพพาน หรือความดับทุกข์นั้นเป็นความต้องการโดยธรรมชาติของมนุษย์ ใครบ้าง ไม่ต้องการดับทุกข์ เมื่อความทุกข์เกิดขึ้น คนเราก็ทุรนทุราย ถ้าดำเนินการให้ถูกวิธีก็ดับได้ ถ้าดำเนินการผิดวิธีก็ดับไม่ได้ หรือถ้าดับได้ก็เป็นอย่างเทียม ๆ การดับทุกข์ได้ครั้งหนึ่ง ๆ 186 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More