วิบากกรรมและการพิจารณาทางจิต MD 408 สมาธิ 8 หน้า 66
หน้าที่ 66 / 265

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เสนอการศึกษาวิธีการของกรรมทั้งดำและขาว รวมถึงกรรมที่ไม่ดำไม่ขาว การเกิดผลจากกรรม และการหลีกเลี่ยงความคิดที่นำไปสู่ความว้าวุ่นใจ โดยอิงหลักธรรมการศึกษาของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะในเรื่องอจินไตยและการคิดตรองกรรมที่ลึกซึ้ง. ขอสรุปว่า กรรมดำถือว่าเป็นอกุศล, กรรมขาวเป็นกุศล, กรรมทั้งดำและขาวคือการกระทำที่ทั้งดีและไม่ดี, ส่วนกรรมไม่ดำไม่ขาวเป็นกรรมของพระอรหันต์ที่ไม่มีผลสุขทุกข์อีกต่อไป. การเข้าใจในวิบากแห่งกรรมจึงเป็นสิ่งละเอียดซับซ้อนและต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

หัวข้อประเด็น

-กรรมดำและกรรมขาว
-กรรมไม่ดำไม่ขาว
-อจินไตยแห่งกรรม
-วิบากกรรมในพุทธศาสนา
-การตีความธรรมะของพระพุทธเจ้า

ข้อความต้นฉบับในหน้า

2. กรรมขาวมีวิบากขาว คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ของบุคคลใดไม่เป็นไป เพื่อความเบียดเบียน บุคคลนั้นย่อมเกิดในโลกที่ไม่มีการเบียดเบียน เมื่อเกิดในโลกที่ไม่มี การเบียดเบียน ย่อมกระทบกับผัสสะที่ไม่มีการเบียดเบียน ย่อมได้รับเวทนาอันไม่มี การเบียดเบียน เป็นสุขโดยส่วนเดียว ดังเช่นเทพเจ้าเหล่าสุภกิณหะ 3. กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาว คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมของบุคคลใด เป็นไปเพื่อความเบียดเบียนบ้าง เป็นไปเพื่อความไม่เบียดเบียนบ้าง ย่อมกระทบกับผัสสะ อันเป็นไปเพื่อความเบียดเบียนบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อความเบียดเบียนบ้าง เขาย่อมเสวยเวทนา อันเป็นไปเพื่อความเบียดเบียนบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อความเบียดเบียนบ้าง เกลื่อนกล่นไปด้วยสุข และทุกข์ ดังเช่นมนุษย์ทั้งหลาย เทวดาบางพวก วินิบาตบางพวก 4. กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว คือ เจตนาที่จะละกรรมทั้งปวง ทั้งกรรมดำ กรรมขาว และกรรมทั้งดำทั้งขาว กรรมเช่นนี้แหละย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม เช่น กรรมของพระอรหันต์ สรุปได้ว่า กรรมดำ คือ อกุศล ทุจริต กรรมขาว คือ กุศล ทุจริต กรรมทั้งดำทั้งขาว คือ กรรมทั้งที่เป็นกุศลและอกุศล ทั้งทุจริตและสุจริต กรรมไม่ดำไม่ขาว คือ กรรมของพระอรหันต์ ถือว่าเป็นกิริยา ไม่มีผลเป็นสุขหรือทุกข์อีกต่อไป เรื่องวิบากแห่งกรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดซับซ้อนและลึกซึ้งเกินกว่าที่จะคิดตรองตาม ให้รู้ทั่วถึงด้วยสติปัญญาของปุถุชนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นพระพุทธองค์จึงตรัสถึงวิบากกรรมว่า เป็นอจินไตย ที่ถ้าหากใครคิดก็จะมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ดังที่ตรัสไว้ในอจินติตสูตรว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อจินไตย 4 อย่างนี้ไม่ควรคิด ผู้ที่คิดก็จะพึงมีส่วนแห่งความ เป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า อจินไตย 4 คืออะไรบ้าง คือ 1. พุทธวิสัยแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นอจินไตยไม่ควรคิดผู้ที่คิดก็จะพึงมีส่วนแห่ง ความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า 2. ฌานวิสัยแห่งผู้ได้ฌานเป็นอจินไตยไม่ควรคิดผู้ที่คิดก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า 3. วิบากแห่งกรรม เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า 56 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More