การเกิดของเอกภพ: ระหว่างวิทยาศาสตร์และพระพุทธศาสนา MD 408 สมาธิ 8 หน้า 90
หน้าที่ 90 / 265

สรุปเนื้อหา

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าเอกภพเกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่ที่เรียกว่าบิ๊กแบงค์ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับหลักธรรมในพระพุทธศาสนา การเกิดและทำลายโลกได้ถูกกล่าวถึงในสุริยสูตรและอัคคัญญสูตร รวมทั้งการรวมตัวของธาตุต่างๆ และการควบรวมของน้ำในจักรวาลซึ่งคล้ายคลึงกับแนวคิดทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสสารมืด เอกภพเริ่มต้นด้วยการรวมตัวของวัสดุต่างๆ และพัฒนารูปแบบเป็นดวงดาว คล้ายๆ กับการสร้างแผ่นดินในหลักพระพุทธศาสนา การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์และพระพุทธศาสนาสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างน่าสนใจ

หัวข้อประเด็น

-การเกิดของเอกภพ
-บิ๊กแบงค์
-พระพุทธศาสนา
-สสารมืด
-การเชื่อมโยงระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

2 นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เอกภพเกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่ ที่เรียกว่า บิ๊กแบงค์ การระเบิดครั้งใหญ่ เกิดมาจากจุดศูนย์กลาง เมื่อระเบิดแล้วก็ทำให้เกิดการรวมตัวของฝุ่นละออง ทำให้เกิดกาแล็กซีน้อยใหญ่ขึ้นมา ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงการที่โลกถูกทำลายใน สุริยสูตร และเกิดการตั้งกับใหม่ ในอัคคัญญสูตร ได้กล่าวไว้ว่า เมื่อโลกถูกทำลายด้วย ไฟ น้ำ หรือลม จนหมดสิ้น ในท้องจักรวาลจะไม่มีสิ่งใด เป็นอากาศที่เวิ้งว้างว่างเปล่า ต่อมาก็จะมีฝน ตกลงมาจนท่วมทั้งท้องจักรวาล แล้วระดับน้ำก็ลดลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดที่ตั้งของภพภูมิต่างๆ เมื่อ น้ำลดลงจนถึงระดับคงที่ไม่ลดลงอีก ก็จะเกิดการรวมตัวของธาตุหยาบเป็นตะกอนลอยอยู่ เหนือผิวน้ำ เรียกว่า ง้วนดิน ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นแผ่นดินรองรับสิ่งต่างๆ หากเราเชื่อมโยงกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์จะพบว่ามีลักษณะคล้ายกัน อย่างเช่น ทฤษฎีบิ๊กแบงค์ ตามที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบนั้น ก็คือช่วงเกิดการสิ้นสุดของโลกด้วย ไฟบรรลัยกัลป์ ทุกอย่างก็จะสลายเป็นหมอกเพลิงแล้วจะเริ่มเย็นตัวลงเมื่อเย็นตัวลงแล้วก็เริ่มเกิด แผ่นดิน ซึ่งตอนแรกมีลักษณะเป็นแผ่นแบนๆ ที่เชื่อมต่อกัน ถ้าลองสังเกตง่ายๆ ก็คล้ายๆ กับ น้ำนมที่ต้มแล้วเอาไปวางทิ้งไว้ให้เย็นก็จะทำให้เกิดเป็นฝ้าบางๆ จักรวาลในตอนแรกที่ธาตุหยาบ เกิดขึ้นก็เป็นกาแล็กซีแผ่นแบนๆ เชื่อมกัน พอเย็นตัวลง ธาตุดินก็เริ่มหดเข้าหากันแล้วมี การเกาะกลุ่มกันกลายเป็นดวงดาวต่าง ๆ บนท้องฟ้า จากการค้นพบเรื่องสสารมืดในปัจจุบัน แม้ว่าจะยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนว่า สสารนี้คือ อะไรกันแน่ แต่ก็รู้ว่าเป็นสิ่งที่มีมวล มีความหนาแน่นสูง และประมาณว่ามีจำนวนมากถึง 90 % ซึ่งถ้าหากเชื่อมโยงกับความรู้ในทางพระพุทธศาสนาก็จะทราบว่า ธาตุนั้นก็คือ น้ำ ซึ่งเป็นสิ่ง ที่มีอยู่ในจักรวาลเป็นจำนวนมาก แต่น้ำนี้คงไม่ใช่น้ำตามที่เราเห็นกันว่า เป็นน้ำในมหาสมุทร ในแม่น้ำลำคลอง แต่เป็นธาตุส่วนละเอียดซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตรวจสอบลักษณะได้ หากพิจารณาเทียบเคียงให้ดีก็จะทราบว่า ดวงดาวต่าง ๆ ที่อยู่ในจักรวาล มีลักษณะคล้ายๆ กับ ผลมะพร้าว จอก แหน ที่ลอยอยู่บนน้ำ นักบินอวกาศกล่าวว่า การไปอยู่ในอวกาศจะทำให้รู้สึก ตัวเบาเหมือนการดำน้ำในอากาศ หรือหากไปดูการฝึกซ้อมของนักอวกาศ ก่อนที่พวกเขาจะ ออกไปสู่อวกาศ ก็จะต้องมาฝึกซ้อมในสระน้ำขนาดใหญ่ เพราะลงไปในน้ำแล้วก็อยู่ในสภาวะที่ ไร้น้ำหนัก ซึ่งน้ำจะมีลักษณะภาวะคล้าย ๆ กับไร้น้ำหนัก การลงไปในน้ำจะทำให้ตัวเบา อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต, มก. เล่ม 37 ข้อ 63 หน้า 214-215. * ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค, มก. เล่ม 15 ข้อ 55 หน้า 150. 80 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More