การมองด้วยจักขุธรรมกาย และลักษณะของสังโยชน์ MD 408 สมาธิ 8 หน้า 48
หน้าที่ 48 / 265

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการมองด้วยจักขุธรรมกายที่แสดงถึงจุดดำสนิทซึ่งหุ้มศูนย์กลางของเห็น จำ คิด รู้ ในกายมนุษย์และกายธรรมอื่น ๆ สังโยชน์ถูกมองว่าเป็นเชือกที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่กายมนุษย์ไปจนถึงกายพระอนาคามี โดยสังโยชน์ที่ไม่สามารถนำไปสู่พระนิพพานได้นั้นจะถูกหุ้มเคลือบด้วยอวิชชาและกิเลสต่าง ๆ ซึ่งมีลักษณะเป็นสีดำ ตัวอย่างของสังโยชน์ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เนื้อหานี้จะช่วยในการเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างกายมนุษย์ สังโยชน์ และการเข้าถึงนิพพานของพระอรหัตอย่างลึกซึ้ง

หัวข้อประเด็น

-จักขุธรรมกาย
-สังโยชน์
-กายมนุษย์
-อวิชชา
-การหลุดพ้น

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ซึ่งมองด้วยจักขุธรรมกายจะมีลักษณะเป็นจุดดำสนิทสุด ๆ หุ้มศูนย์กลางของธาตุธรรมเห็นจำคิด รู้ ของกายมนุษย์เอาไว้ มีลักษณะเป็นดวงดำๆ ดำสุดๆ ดำกว่ากิเลสที่ตรงอื่น จะมีลักษณะเป็น จุดเล็ก ๆ ดำ แล้วก็หุ้มศูนย์กลางของเห็น จำ คิด รู้ ของเรา เมื่อหุ้ม เห็น จำ คิด รู้ ของเราได้แล้ว มันก็หุ้มไปตามธาตุธรรมต่างๆ ของเราได้ทั้งหมด ตลอดทุกกาย ทุกสาย ตั้งแต่กายมนุษย์ กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม กายธรรมโคตรภู กายธรรมพระโสดา กายธรรมพระสกทาคามี และกายธรรมพระอนาคามี มันจะหุ้มแล้วก็ร้อย เชื่อมกันไปเป็นสายทำให้กายเหล่านี้ไม่สามารถหลุดพ้นออกจากภพสามนี้ไปได้เป็นสายเชื่อมต่อ ไปตลอดทุกกายตั้งแต่กายมนุษย์ จนถึง กายพระอนาคามี ยกเว้น กายธรรมพระอรหัตเท่านั้นที่ อวิชชาไม่สามารถเชื่อมได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ไม่รู้แจ้ง เห็นจริง ในสิ่งต่าง ๆ คือ ขันธ์ 5 อายตนะ 12 ธาตุ 18 อินทรีย์ 22 อริยสัจ 4 ปฏิจจสมุปบาท 12 อวิชชาเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสังโยชน์ ถ้ามองไปในกลางด้วยธรรมจักขุของธรรมกายก็จะเห็น สังโยชน์เหมือนกับเชือกที่ผูกไว้ โดยสังโยชน์นี้จะร้อยไส้ขยายออกมาหุ้มอวิชชาเอาไว้หนาขึ้นไป อีกชั้นหนึ่ง ร้อยแต่ละกายเอาไว้ทำให้กายเหล่านั้นไม่สามารถออกจากภพไปสู่พระนิพพานได้ ที่ไปอยู่ในพระนิพพานได้มีกายเดียวคือกายธรรมพระอรหัต กายอื่นไม่สามารถเข้าไปได้ สังโยชน์ที่อยู่ในกายของกายในภพ สามารถที่จะแตกกิ่งก้านสาขา ออกมาได้มากมาย เวลาสังโยชน์เข้ามาบังคับ หลวงปู่วัดปากน้ำมักจะพูดคำว่า หุ้ม เคลือบ เอิบอาบ ซึมซาบ ปนเป็น สวมซ้อน ร้อยไส้ มันจึงแสดงอาการต่าง ๆ ออกมาเป็นอาสวะ โอฆะ โยคะ คันถะ อุปาทาน นิวรณ์ กิเลส และแตกเป็นเหง้า 3 เหง้า สังโยชน์ที่อยู่ในกายนอกภพคือ ตั้งแต่กายธรรมเป็นต้นไป สังโยชน์จะแตกกิ่งก้านสาขา ออกมาไม่ได้ เป็นได้แต่เพียงร้อยไส้ สังโยชน์ในกายธรรมนี้ จึงมีชื่อเรียกว่า สังโยชน์ เพราะ ร้อยผูกเอาไว้ ด้วยเหตุนี้เองกายธรรมจึงเป็นสภาพบริสุทธิ์ผ่องใส ไม่ถูกหุ้ม เคลือบ โดยกิเลสได้ สำหรับสังโยชน์นี้แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ สังโยชน์เบื้องสูง สามารถร้อยได้ในกายธรรม ทุกกาย ยกเว้นกายธรรมอรหัตต์ และสังโยชน์เบื้องต่ำร้อยได้ตั้งแต่กายธรรมโคตรภู ถึงกายธรรม อนาคามี การที่กิเลสฟุ้งขึ้นมาก็เพราะที่เห็นจำคิดรู้มีอวิชชา ตั้งแต่กายมนุษย์ร้อยไปถึงกายธรรม อนาคามี โดยธรรมดาแล้วกิเลสจะแตกเป็น โลภะ โทสะ โมหะ เข้ามาหุ้มเคลือบ เอิบอาบ ซึมซาบ ปนเป็น สวมซ้อน ร้อยไส้ เข้ามาปนอยู่ในนี้หมด ไม่ว่าจะเป็นกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง มีลักษณะสีเดียว คือ สีดำ 38 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More