ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมชาติทั้ง 4 อย่างนี้มีอุปมาดั่งข่ายของใยแมงมุม ซึ่งไม่ว่าจะมีอะไรมากระทบส่วนหนึ่ง
ส่วนใดของข่ายนั้นให้กระเทือนแล้ว ส่วนอื่นๆ ย่อมได้รับความกระทบกระเทือนถึงกันหมด
ทั้งข่ายนั้น ธรรมชาติที่น้อมไปหาอารมณ์และทำหน้าที่พร้อมกันหมดทั้ง 4 นี้เองที่มีชื่อว่า ใจ
ดวงคิด หรือ จิตนั้น ลอยอยู่ในเบาะน้ำเลี้ยงของหัวใจอันใสบริสุทธิ์ มีประมาณเท่าหนึ่ง
ซองมือของผู้เป็นเจ้าของ และจิตนี้ โดยสภาพเดิมของมันแล้ว เป็นธรรมชาติที่ผ่องใส จึงมีชื่อว่า
ปัณฑระ แต่เนื่องจากจิตมักตกไปในอารมณ์ที่น่าใคร่ และมักน้อมไปสู่อารมณ์ภายนอกตัวเอง
อยู่เสมอ จึงเปิดช่องให้กิเลสเข้ามาทำให้จิตใจเศร้าหมอง ไม่ผ่องใส สีน้ำเลี้ยงของจิตจึงเปลี่ยนสี
ไปตามสภาพของกิเลสแต่ละประเภทที่ผ่านเข้ามานั้น เป็นต้นว่า เมื่อจิตระคนด้วยโลภะหรือ
ราคะก็จะเห็นเป็นสีชมพู หรือเกือบเป็นสีแดง เมื่อจิตระคนด้วยโทสะก็จะมีสีเกือบดำ และถ้า
จิตระคนด้วยโมหะ ก็จะมีสีขุ่นเทาๆ หรือสีตะกั่วตัดก็มีขึ้นอยู่ที่สภาพของกิเลสว่าหนักเบาเพียงใด
นอกจากนี้อาการลอยของจิตในเบาะน้ำเลี้ยงของหัวใจนั้นก็บอกอาการของจิตว่าฟุ้งซ่าน
หรือเซื่องซึม หรือปกติ หรือหยุดอยู่ในอารมณ์เดียวเพียงใด กล่าวคือ ถ้าจิตลอยอยู่เหนือระดับ
น้ำเลี้ยงของหัวใจมาก ก็แสดงอาการของจิตว่า ฟุ้งซ่านมาก ถ้าลอยอยู่เหนือระดับน้ำเลี้ยงของ
หัวใจเพียงเล็กน้อย ก็นับว่ามีสภาพปกติธรรมดา ถ้าลอยปริ่มพอดีกับระดับน้ำเลี้ยงของหัวใจ
ก็อยู่ในเอกัคคตารมณ์ และถ้าจมลงมาก ก็หลับไปเลย อย่างนี้เป็นต้น
ในขันธ์ทั้ง 5 คือ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ ก็มี
เห็น จำ คิด รู้ ทังสี
ทั้งสี่อย่าง เจืออยู่ด้วยทุกขันธ์ อธิบายว่า ขันธ์ในส่วนหยาบแต่ละขันธ์ก็จะมีขันธ์
ในส่วนกลางทุกขันธ์อยู่ด้วย
ที่กล่าวมานี้เป็นขันธ์ 5 ในส่วนละเอียด ส่วนกลางและส่วนหยาบ ในทางปฏิบัติ เมื่อเพ่ง
ลงไปที่กลางวิญญาณขันธ์ ซึ่งเป็นขันธ์ 5 ส่วนละเอียด (อยู่ในกลางจุดกำเนิดเดิม) ก็จะเห็น
ธาตุธรรมส่วนละเอียดของอายตนะทั้ง 12 ซ้อนอยู่เป็นชั้น ๆ เข้าไปข้างในอีก
พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) และคณะศิษย์, ทางมรรค ผล นิพพาน (ธรรมปฏิบัติ
ตามแนววิชชาธรรมกาย), กรุงเทพฯ: ชวนพิมพ์, 2523, หน้า 385.
2 เล่มเดียวกัน หน้า 401.
3 เล่มเดียวกัน หน้า 384.
230 DOU สมาธิ 8 วิปัสสนากัมมัฏฐาน