ความเข้าใจในตัณหาและอุปาทาน MD 408 สมาธิ 8 หน้า 223
หน้าที่ 223 / 265

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัณหาและอุปาทาน ซึ่งตัณหาคือความอยากที่เป็นเหตุและอุปาทานคือความยึดมั่นถือมั่นที่เป็นผลจากตัณหา โดยมีการยกตัวอย่างถึงการยึดมั่นในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดจากความต้องการ ชี้แจงว่าอุปาทานมี 4 ประเภท เช่น กามุปาทาน, ทิฏฐปาทาน, สีลัพพตุปาทาน, และอัตตวาทุปาทาน ซึ่งทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างกรรมและภพ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการถือว่ามีตัวตนและการกระทำที่เกิดจากความยึดมั่น.

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของตัณหา
-อุปาทานและผลของมัน
-ประเภทของอุปาทาน
-การกระทำตามอุปาทาน
-ผลกระทบของความยึดมั่น

ข้อความต้นฉบับในหน้า

8. ตัณหาเป็นปัจจัยให้เกิดอุปาทานหมายความว่า ความยึดมั่นถือมั่นนั้นมีความอยาก เป็นมูลฐานเมื่ออยากจึงยึดมั่นถือมั่นถ้าไม่อยากก็ไม่ยึด ทำนองเดียวกันเพราะหิวจึงกิน ถ้าไม่หิว ก็ไม่กิน ตัณหากับอุปาทานนั้น แม้จะเป็นพวกโลภะด้วยกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง โดยที่ ตัณหาเป็นเหตุ อุปาทานเป็นผลของตัณหา คือ ตัณหานั้นเป็นความอยาก ความปรารถนาอารมณ์ ที่ยังไม่ได้ ยังมาไม่ถึง อุปาทานเป็นความยึดอารมณ์ที่ได้แล้ว ที่มาถึงแล้ว เช่น อยากเป็น นายพล เป็นตัณหา ครั้นได้รับยศเป็นนายพลแล้ว ก็ถือยศนายพลว่า ข้าคือนายพล นี่เป็นอุปาทาน พระพุทธองค์ทรงเปรียบไว้ว่า ตัณหาเหมือนอาการที่ขโมยเหยียดมือออกไปควานหาในที่มืด อุปาทาน เปรียบเหมือนอาการที่ขโมยเอามือจับของนั้นไว้ ไม่ยอมปล่อย อีกอย่างหนึ่ง ตัณหา อย่างอ่อนจัดเป็นตัณหาความอยาก ตัณหาอย่างแรงจัดเป็นกามุปาทาน ตัณหาตรงข้ามกับ ความปรารถนาน้อย อุปาทานตรงข้ามกับความสันโดษ อุปาทานนี้เองเป็นปัจจัยให้เกิดภพ 9. อุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เมื่อมีอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นในความพึงพอใจ ของตน ดังได้กล่าวแล้วว่าอุปาทาน มี 4 อย่าง คือ (1) กามุปาทาน คือ การยึดมั่น พึงพอใจติดพันในกาม ในสิ่งที่อยากได้ในกามหรือ ทางโลก ๆ เช่น ใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส (2) ทิฏฐปาทาน คือ การยึดมั่นถือมั่น ความพึงพอใจในทฤษฎีและความเชื่อหรือทิฏฐิ อยากให้เป็น หรือไม่อยากให้เป็นตามที่ตนเชื่อ ตามที่ตนยึดถือ ยึดมั่น (3) สีลัพพตุปาทาน คือ การยึดมั่นยินดียินร้ายในศีลและพรต (ข้อปฏิบัติ) ด้วยกิเลส อย่างงมงายผิด ๆ เช่น การทรมานกายเพื่อให้บรรลุธรรม การถือศีลอย่างเดียวเชื่อว่าบรรลุธรรม เชื่อว่าขลัง ว่าศักดิ์สิทธิ์ (4) อัตตวาทุปาทาน คือ ความยึดมั่นในวาทะ (ถ้อยคำ) ว่าตัวตน เป็นความหลงผิด พื้นฐานที่เกิดในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว และช่วยเสริมด้วยถ้อยคำภาษาสมมุติที่ใช้สื่อสารกัน ทำให้เกิดมองเห็นสิ่งต่าง ๆ แยกออกจากกัน เห็นเป็นของตนชัดเจนขึ้นในจิตเป็นประจำ เช่น ของผม ของคุณ บ้านของผม รถของฉัน ลูกของฉัน จนไปยึดถือ ยินดียินร้าย หรือพึงพอใจโดย ไม่รู้ตัวตลอดเวลาในทุกขณะจิตในชีวิตประจำวัน เมื่อมีความยึดมั่นถือมั่น ก็ย่อมจะมีกรรมภพ คือ การทำบุญทำบาปได้ เช่น เมื่อมี ความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตน เป็นของตน หรือเป็นของเนื่องด้วยตน โดยความรัก ความหวงแหน ความเห็นผิดจึงมีการกระทำเพื่อสิ่งที่ตนยึดมั่นถือมั่นนั้นถ้าไม่มีการยึดมั่นถือมั่นก็ไม่มีการกระทำ ที่เป็นบุญและบาป ด้วยเหตุนี้ อุปาทานเป็นปัจจัยให้เกิดกรรมภพ จึงกล่าวโดยรวบยอดว่า อุปาทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพ และกรรมภพนี้เองเป็นปัจจัยให้เกิดชาติ บ ท ที่ 10 ป ฏิ จ จ ส มุ ป บ า ท DOU 213
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More