ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปฏิจจสมุปบาทจะมองเป็นวงกลมก็ได้ จะมองเป็นเส้นตรงก็ได้ ถูกทั้งสองอย่าง ถ้ามอง
เป็นเส้นตรงก็หมายความว่า มองเป็นเรื่องของกาลเวลา เพราะว่าตัวอวิชชาไปจนถึงชรามรณะ
ที่ทำให้เกิดอวิชชาตัวใหม่ มันมีการเกิดดับอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นตัวอวิชชาที่เกิดขึ้นมาจึงไม่ใช่
ตัวเก่า เป็นคนละตัวกัน เพราะฉะนั้นจะมองเป็นเส้นตรงก็ได้
ถ้าจะมองเป็นวงแบบวงจรวงกลม จะเห็นถึงความเชื่อมโยงของการทำงานซ้ำแล้วซ้ำอีก
ตลอดต่อเนื่องไม่มีหยุดหย่อน
11.6.2 ลักษณะของปฏิจจสมุปบาท
เมื่อเจริญฌานสมาบัติพิจารณาอริยสัจ 4 ซึ่งเป็นไปในญาณทัสสนะ มีรอบ 3
มีอาการ 12 อยู่นั้น ย่อมจะสามารถพัฒนาไปเป็นปฏิจจสมุปบาทธรรม 12 ได้กล่าวคือ ในขณะที่
พิจารณาเห็นทุกขอริยสัจและสมุทัยอริยสัจในกายมนุษย์ กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม
ทั้งหยาบและละเอียดอยู่นั้น หากเพ่งพิจารณาด้วยตา หรือญาณของพระธรรมกายลงไปที่กลาง
ทุกขสมุทัยอริยสัจ” ก็จะเห็นว่า
อวิชชา มีลักษณะสัณฐานกลม สีดำขุ่นมัว ไม่ผ่องใส เล็กประมาณเท่าเมล็ดโพธิ์
หรือเมล็ดไทร เป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร
สังขาร มีลักษณะสัณฐานกลม สีขาวใสสะอาดบริสุทธิ์ ซ้อนอยู่ชั้นในของอวิชชา
เป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ
วิญญาณ มีลักษณะสัณฐานกลม สีขาวใสสะอาดบริสุทธิ์ ซ้อนอยู่ในชั้นของสังขาร
เป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป
นามรูป มีลักษณะสัณฐานกลม สีขาวใสสะอาดบริสุทธิ์ ซ้อนอยู่ในชั้นของวิญญาณ
เป็นปัจจัยให้เกิดสฬายตนะ
สฬายตนะ มีลักษณะสัณฐานกลม สีขาวใสสะอาดบริสุทธิ์ ซ้อนอยู่ในชั้นของนามรูป
เป็นปัจจัยให้เกิดผัสสะ
ผัสสะ มีลักษณะสัณฐานกลม สีขาวใสสะอาดบริสุทธิ์ ซ้อนอยู่ในชั้นของสฬายตนะ
เป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา
พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) และคณะศิษย์, ทางมรรค ผล นิพพาน (ธรรมปฏิบัติ
ตามแนววิชชาธรรมกาย), กรุงเทพฯ: ชวนพิมพ์, 2523 หน้า 541.
248 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน