ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมารมณ์ที่มากระทบใจ และตรงกลางมโนธาตุ ก็มีมโนวิญญาณธาตุ ซึ่งใส สะอาดบริสุทธิ์กว่า
และเล็กกว่ามโนธาตุ ซ้อนอยู่ข้างในเข้าไปอีก สำหรับให้รู้แจ้งอารมณ์ที่มากระทบนั้นว่าเกี่ยวกับ
เรื่องอะไร และมีสายใยสีขาว ใสบริสุทธิ์ หยั่งลงไปจรดรวมอยู่ที่กลางขันธ์ 5 ตรงกำเนิด
ธาตุธรรมเดิม แต่สายของมนายตนะนี้ ไม่ผ่านขึ้นสู่สมองศีรษะเหมือน 5 สายข้างต้น
การรู้กลิ่น รู้รส รู้การสัมผัสทางกาย และรู้ธรรมารมณ์ที่ผ่านเข้ามาทางใจ ก็เป็นไปใน
ลักษณะเดียวกันกับการเห็นรูป หรือได้ยินเสียง ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น และถ้าสิ่งที่จะก่อ
ให้เกิดอารมณ์จากภายนอกที่มากระทบนั้นเป็นสิ่งที่น่าพอใจ ยินดี ก็จะรู้สึกเป็นสุข เรียกว่า เสวย
สุขเวทนา และในกรณีเช่นนี้ ก็จะเห็น ใจ มีลักษณะใส แต่ถ้าอายตนะภายนอกหรือสิ่งที่จะก่อ
ให้เกิดอารมณ์จากภายนอกมากระทบทวารทั้งหลายเหล่านี้ ไม่เป็นที่น่าพอใจ ยินดี ก็เป็นทุกข์
ใจ เรียกว่า เสวยทุกขเวทนา ในกรณีเช่นนี้ ก็จะเห็น“ใจ” ทั้งดวงมีลักษณะขุ่นมัวไม่แจ่มใส
ถ้าหากไม่รู้เท่าทันในสภาวะจริงตามธรรมชาติที่เป็นจริงของเวทนา ไม่รู้ข้อดี ข้อเสีย
ของเวทนา และไม่รู้ทางออกจากเวทนาทั้งหลายเหล่านั้นแล้วปล่อยให้จิตใจเลื่อนลอยตามอารมณ์
จนถึงกับต้องสยบอยู่ในอารมณ์ที่น่ารัก น่ายินดี หรือจนถึงกับเคียดแค้น ชิงชังในอารมณ์ที่
ไม่น่าพอใจยินดี กิเลสอนุสัยต่าง ๆ เป็นต้นว่า กามราคานุสัย หรือปฏิฆานุสัย และอวิชชานุสัย
ก็จะฟุ้งขึ้นมาครอบคลุมจิตใจ ดลจิตดลใจให้ปฏิบัติตามอำนาจของมัน อันเป็นทางให้เกิด
ความทุกข์ ความเดือดร้อนตามมาได้
ดังนั้น จะเห็นว่าในธาตุ 18 ก็ยังมีการทำงานในส่วนละเอียดที่เป็นตัวแปรสัญญาณ
ของใจ หรือตัวของเห็น จำ คิด รู้ ทำให้มันแปรเปลี่ยนไป เป็นวิญญาณทั้ง 6 ได้โดยซ่านไปตาม
ฐานต่าง ๆ นี่ก็คือการทำงานของธาตุ 18
เมื่อใช้ธรรมกายพิจารณาดูธาตุธรรมส่วนละเอียดของขันธ์ 5 อายตนะ 12 และธาตุ 18
ซึ่งมีขนาดประมาณเท่าเมล็ดโพธิ์เมล็ดไทร ที่ตรงกลางกำเนิดธาตุธรรมเดิมซ้อนกันอยู่เป็นชั้นๆ
เข้าไปข้างใน ใสละเอียดยิ่งกันไปตามลำดับแล้วเพ่งต่อไปที่กลางธาตุ 18 ดวงสุดท้ายในชั้นที่ 29
ก็จะเห็นอินทรีย์ 22 ซ้อนเรียงตามลำดับอินทรีย์เป็นชั้นๆ กันเข้าไปข้างใน
11.4 อินทรีย์ 22
อินทรีย์ 22 จะมีลักษณะเป็นดวงธรรม 22 ดวง อยู่กลางจุดกำเนิดเดิม อยู่ต่อจาก
ธาตุ 18 แบ่งหมวดการทำงานดังนี้
236 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน