ข้อความต้นฉบับในหน้า
กิเลสทั้ง 3 ระดับนี้มีขั้นตอนในการเปลี่ยนสภาพ เพื่อแสดงตัวออกมาดังนี้คือ
อนุสัยกิเลสเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจ ตราบเท่าที่ยังไม่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
หมดกิเลสโดยสิ้นเชิง กิเลสก็จะคอยบังคับใจเราอยู่ แม้ว่าจะยังไม่ได้แสดงผลออกมา แต่ก็ยัง
คงนอนเนื่องอยู่ในใจ กิเลสเช่นนี้เรียกว่าอนุสัย
อนุสัยกิเลสนี้จะฟูขึ้นมา เพราะมีการกระทบกันของอายตนะภายใน และภายนอก เช่น
เมื่อตาไปกระทบกับรูป ก็จะเกิดรับรู้ และเกิดการปรุงแต่ง ว่าชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งก็จะไปกวนกิเลส
ที่อยู่ภายในให้ฟุ้งขึ้น เหมือนน้ำที่ตกตะกอน ยังใสๆ อยู่แล้วเราเอาวัตถุไปกวน ตะกอนก็จะฟุ้ง
ขึ้นมาถ้าเห็นรูปสวย ๆ งาม ๆ ก็เป็นความคิดระดับต้นว่าอยากได้จังเลย กิเลสความโลภมันเกิดมา
ทันที การที่กิเลสถูกกวนให้ฟุ้งขึ้น และแสดงตัวออกมา เรียกว่ากิเลสในระดับ ปริยุฏฐานกิเลส
เมื่อกิเลสถูกกระทบหนักเข้าๆก็จะขุ่นหนักเข้าจนในที่สุดก็จะแสดงออกมาทางการกระทำ
ด้วยกาย ด้วยวาจา เรียกว่า วีติกกัมมกิเลส
2.6 กิเลสในกายต่าง ๆ
กิเลสเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวของสรรพสัตว์ แต่ว่าจำนวนหรือปริมาณนั้นแตกต่างกันไปใน
แต่ละบุคคล ในทางปฏิบัติ พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีค้นพบว่า กายภายในตัวเรามี 18
กาย ตั้งแต่กายมนุษย์หยาบ ถึง กายธรรมพระอรหัตต์ละเอียด พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี
ได้จัดแบ่งกายเหล่านี้เป็น 2 ประเภท คือ
1. กายในภพ คือ กายมนุษย์หยาบ กายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ กายทิพย์ละเอียด
กายอรูปพรหม กายอรูปพรหมละเอียด
2. กายนอกภพ คือ กายธรรมโคตรภู กายธรรมโคตรภูละเอียด กายธรรมพระโสดา
กายธรรมพระโสดาละเอียด กายธรรมพระสกทาคา กายธรรมพระสกทาคาละเอียด กายธรรม
พระอนาคา กายธรรมพระอนาคาละเอียด กายธรรมพระอรหัต กายธรรมพระอรหัตละเอียด
ในทั้ง 18 กายนี้ ท่านค้นพบว่า กิเลสจะเข้าไปบังคับเป็นชั้นๆ ในแต่ละกาย โดยกายที่
อยู่ในภพ กิเลสจะสามารถเข้าไปบังคับได้ ส่วนกายที่อยู่นอกภพคือ ตั้งแต่กายธรรมเป็นต้นไป
กิเลสไม่สามารถเข้าไปบังคับได้ เป็นเพียงแค่ร้อยไส้ สำหรับกิเลสที่มีอยู่ในกายต่าง ๆ ที่อยู่ในภพ
พระมงคลเทพมุนี ได้อธิบายถึงความแตกต่างกันไว้ดังนี้ คือ
1 วัดปากน้ำภาษีเจริญ และสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ, มรดกธรรมของหลวงพ่อวัดปากน้ำ (พระมงคล
เทพมุนี), กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด, 2537, หน้า 678.
36 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน