ความคิดในเรื่องของกรรมและวิบาก MD 408 สมาธิ 8 หน้า 67
หน้าที่ 67 / 265

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาพูดถึงการไม่ควรคิดเรื่องกรรมและวิบาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ติดตามผู้กระทำไปตลอด วิบากกรรมไม่สามารถแบ่งปันได้ รวมทั้งการหยุดการให้ผลของกรรม ซึ่งเกิดจาก 3 สาเหตุ หลายอย่างทำให้เกิดความยากในการเห็นผลกรรม โดยการทำกรรมดีและกรรมชั่วในช่วงเวลาเดียวกันมีผลกระทบต่อการให้ผลของกรรม นอกจากนี้ บุคคลที่สามารถทำกรรมจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์สามารถหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ทุกช่องทาง มีชีวิตอยู่เป็นชาติสุดท้าย

หัวข้อประเด็น

-ความคิดเรื่องกรรม
-วิบากกรรม
-การหยุดการให้ผลของกรรม
-ความสัมพันธ์ระหว่างกรรมและสังสารวัฏ
-การเป็นพระอรหันต์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

4. โลกจินดา (ความคิดในเรื่องของโลก) เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วน แห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า” วิบากแห่งกรรม เป็นของเฉพาะตนจะแบ่งปันเหมือนวัตถุสิ่งของ สืบทอดทางกรรมพันธุ์ ยกให้แก่ผู้อื่นหรือปัดกวาดเช็ดถูชะล้างออกไปจากใจย่อมไม่ได้ และวิบากแห่งกรรมย่อม ติดตามบุคคลผู้กระทำไปได้ข้ามภพข้ามชาติ ตราบใดที่วิบากกรรมยังไม่ส่งผล กระทั่งหมดไปหรือ กลายเป็นอโหสิกรรมแล้ว วิบากแห่งกรรมนั้นย่อมอยู่ในใจตลอดเวลา โดยรอคอยเวลาแห่งการ ส่งผลตามแต่โอกาส 3.5.2 การหยุดให้ผลของกรรม กรรมนี้จะหยุดให้ผลด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ 1. หมดแรง คือ ให้ผลจนสมควรแก่เหตุแล้ว เหมือนคนได้รับโทษจำคุก 2 ปี เมื่อถึง กำหนดแล้ว เขาย่อมพ้นจากโทษนั้น นอกจากในระหว่าง 2 ปีที่ถูกจองจำอยู่ เขาจะทำความผิด ซ้ำเข้าอีก ถ้าในระหว่างถูกจองจำอยู่ เขาทำความดีมาก อาจได้ลดโทษลงเรื่อยๆ การให้ผลของ กรรมก็ทำนองเดียวกัน โดยปกติธรรมดาจะให้ผลจนหมดแรง นอกจากเวลาที่กำลังให้ผลอยู่นั้น บุคคลผู้นั้นทำชั่วเพิ่มขึ้นมันก็จะให้ผลรุนแรงมากขึ้นถ้าเขาทำดีเพิ่มขึ้นผลชั่วก็จะเพลาลงในขณะที่ กรรมที่กำลังให้ผล ถ้าเขาทำความดีเพิ่มขึ้น ผลดีก็จะมีกำลังมากขึ้น ถ้าเขาทำกรรมชั่วในขณะนั้น ผลของกรรมดีก็จะเพลาลง 2. กรรมจะหยุดให้ผล เมื่อกรรมอื่นเข้ามาแทรกเป็นครั้งคราว คือ กรรมดีจะหยุดให้ผล ชั่วคราว เมื่อบุคคลทำกรรมชั่วแรง ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้กรรมชั่วอันมีกำลังเชี่ยวกรากให้ผลก่อน ถ้าขณะที่กรรมชั่วให้ผลอยู่ มันจะหยุดให้ผลชั่วคราว เมื่อบุคคลผู้นั้นทำกรรมดีแรง ๆ เพื่อเปิด โอกาสให้กรรมดีให้ผลก่อน ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นการยากที่จะเข้าใจหรือเห็นกรรมและผลของ กรรมโดยตลอดในช่วงชีวิตเดียวฉะนั้นเรื่องกรรมและสังสารวัฏจึงมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เข้าใจเรื่องกรรมโดยตลอดต้องพูดกันเรื่องสังสารวัฏ เมื่อมีสังสารวัฏคือการเวียนว่าย ตายเกิด ก็ต้องสาวไปหากรรมดีกรรมชั่วในอดีต จึงจะสมบูรณ์ 3. บุคคลผู้ทำกรรมได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ตัดวัฏฏะคือการเวียนว่ายตายเกิดเสียได้ มีชีวิตอยู่เป็นชาติสุดท้าย ไม่เกิดในภพใหม่อีก วิญญาณของท่านผู้นั้นบริสุทธิ์หมดเชื้อ เหมือน เมล็ดพืชที่สิ้นยางเหนียวแล้ว ปลูกไม่ขึ้นอีกต่อไป 1 อังคุตตรกนิกาย จตุกนิบาต, เล่มที่ 35 ข้อ 77 หน้า 235. บ ท ที่ 3 ก ร ร ม - ว บ า ก DOU 57
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More