ข้อความต้นฉบับในหน้า
พอหยาบเข้าไปแล้ว เข้าไปตามลม ไปสุดลมหายใจที่ฐานที่ 7 มันก็จะไปขยายส่วนใน
เห็น จำ คิด รู้ ไปดึงดูดเอากิเลสภายใน ความโลภ ความโกรธ ความหลง คลุกเคล้ากัน แล้วก็
ขยายไปสู่ระบบประสาทกล้ามเนื้อ จากจิตใจสู่ระบบกล้ามเนื้อ สู่ระบบความคิด คำพูด และ
การกระทำ ลมหายใจกับใจสัมพันธ์กันอย่างนี้
ถ้าความโลภ อย่างเช่นอภิชฌา คิดอยากจะได้ของผู้อื่นโดยไม่ชอบธรรม พอความโลภ
เข้าเกิดขึ้น ใจมันจะพร่อง ความโกรธ ความพยาบาท เข้ามาตามลมแล้วก็มาอยู่ที่ฐานที่ 7
ประสานกับกิเลสในตระกูลโทสะหรือพยาบาท ก็จะทำให้ใจพล่าน ถ้าเป็นกิเลสตระกูลโมหะ ใจ
ก็จะพร่ามัว จำง่ายๆ ดังนี้คือ ใจพร่องเพราะโลภ ใจพล่านเพราะโกรธ ใจพร่ามัวเพราะหลง เพราะ
ฉะนั้นเวลาอารมณ์ยินดียินร้ายเข้ามา จึงมีเทคนิคว่าให้สั่งลมออก คล้ายกับ สั่งน้ำมูก แต่ไม่ถึง
ขั้นต้องสั่งอย่างรุนแรง ให้ลมออกนิดหนึ่ง พอลมหยาบไม่อาจเข้ามาได้ ก็จะไม่มีตัวเชื่อมประสาน
เพราะฉะนั้นมันก็จะดับไป อารมณ์นั้นก็จะดับไป ใจเราก็จะใส
1.1.3 หลักการทำใจหยุด
จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นถึงลักษณะของใจตามที่พระมงคลเทพมุนีกล่าวไว้ เป็น
การกล่าวถึงใจเมื่อออกมาทำงานไม่ได้กล่าวถึงใจในภาวะหยุดนิ่ง การทำใจให้หยุด จะต้องทำให้
เห็น จำ คิด รู้ มารวมอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ไม่ส่งใจออกไปตามฐานต่าง ๆ ซึ่งท่านกล่าวไว้ว่า
“คำที่เรียกว่า ใจ นี่แหละเราต้องบังคับให้หยุดเป็นจุดเดียวกัน เห็น จำ คิด รู้
สี่อย่างนี้ ต้องมารวมหยุดเป็นจุดเดียวกันอยู่กลางกายมนุษย์ มารวมหยุดเป็น
จุดเดียวกันอยู่กลางกายมนุษย์ สะดือทะลุหลัง ขวาทะลุซ้าย กลางกั๊กข้างในสะดือ
ทะลุหลังเป็นด้ายกลุ่มไปเส้นหนึ่งตึง ขวาทะลุซ้าย เป็นด้ายกลุ่มไปเส้นหนึ่งตึง
ตรงกัน ตึงทั้ง 2 เส้นตรงกลางจรดกัน ที่กลางจรดกันนั้นแหละเรียกว่า กลางก
กลางก๊กนั้นแหละ ถูกกลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ใสบริสุทธิ์ เท่าฟอง
ไข่แดงของไข่ไก่ ถูกกลางดวงพอดี ที่สอนให้เอาพระของขวัญไปจรดไว้ที่กลางดวง
นั้นคือกลางก๊กนั่นแหละ เราเอาใจของเราไปจรดที่กลางก๊กนั้น เห็น จำ คิด รู้
4 อย่างจรดอยู่กลางกั๊กนั้น กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ มีที่ตั้งแห่งเดียว
เท่านั้น “ใจ” ที่เขาบอกว่า “ตั้งใจ” นะ เราจะต้องเอาใจไปหยุดตรงนั้นทีเดียว
ถึงจะถูกเป้าหมายใจดำ เขาบอกว่าตั้งใจ”
เอกสารรวบรวมพระธรรมเทศนา (พระมงคลเทพมุนี), กรุงเทพฯ : อาคารทวีสินคอมเพล็กซ์, 2539, หน้า 5.
บ ท ที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ วิปัสสนา DOU 9