ข้อความต้นฉบับในหน้า
ในภพใหม่ต่อไปอีก ดูก่อนอานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผลให้อรูปธาตุจักไม่มีแล้ว อรูปภพจึง
ปรากฏบ้างหรือหนอ”
พระอานนท์ “ไม่พึงปรากฏเลย พระเจ้าข้า”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า “ดูก่อนอานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณ
ชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยางเจตนา ความปรารถนาประดิษฐานแล้วเพราะธาตุอย่างประณีต
ของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้นมีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ ด้วยประการฉะนี้จึงมีการเกิด
ในภพใหม่ต่อไปอีก ดูก่อนอานนท์ ภพย่อมมีได้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล
เมื่อมีการเวียนตายเวียนเกิดในภพภูมิก็ย่อมก่อให้เกิดวงจรไตรวัฏฏ์ อย่างยาวนาน คือ
เกิดการท่องเที่ยวไปเพราะการมีชีวิตอยู่เปรียบเสมือนการเดินทาง นับตั้งแต่ปฏิสนธิขึ้นในครรภ์
ของมารดา จนกระทั่งออกมาสู่โลกภายนอก ภาวะทางกายและทางจิตของมนุษย์ไม่เคยหยุด
อยู่กับที่ แต่ก้าวไปข้างหน้าจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ผ่านจากภพนี้ไปสู่ภพอื่นต่อไป และ
ต่อ ๆ ไป ไม่มีที่สิ้นสุด ดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มี
อวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ท่องเที่ยวไปมาอยู่ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ
พวกเธอได้เสวยทุกข์ ความเผ็ดร้อน ความพินาศ ได้เพิ่มพูนปฐพีที่เป็นป่าช้า ตลอดกาลนาน....
พวกเธอได้ประสบมรณกรรมของมารดา... ได้ประสบมรณกรรมของบิดา... ของพี่ชาย
น้องชาย พี่สาว น้องสาว.... ของบุตร... ของธิดา... ความเสื่อมแห่งญาติ...ความเสื่อมแห่งโภคะ....
ได้ประสบความเสื่อมเพราะโรค ตลอดกาลนาน...
น้ำนมมารดาที่พวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมาอยู่โดยกาลนานดื่มแล้วนั่นแหละ มากกว่า
น้ำในมหาสมุทรทั้ง 4…….
โลหิตที่หลั่งไหลออกของพวกเธอ ผู้ท่องเที่ยวไปมาซึ่งถูกตัดศีรษะ.... เมื่อเธอทั้งหลายเกิด
เป็นกระบือ... เกิดเป็นแกะ.... เกิดเป็นแพะ.... เกิดเป็นเนื้อ.... เกิดเป็นสุกร... เกิดเป็นไก่... ถูกจับ
ตัดศีรษะโดยข้อหาว่าเป็นโจรคิดปล้น.... ถูกจับตัดศีรษะโดยข้อหาว่าเป็นโจรประพฤติผิดในภรรยา
ของผู้อื่น ตลอดกาลนาน โลหิตที่หลั่งไหลออกนั่นแหละมากกว่า น้ำในมหาสมุทรทั้ง 4...
* อังคุตตรนิกาย ติกนิบาตร, มก. เล่ม 34 ข้อ 517 หน้า 424-425.
* ไตรวัฏฏ์ หมายถึง การเวียนเกิดเวียนตาย เพราะเหตุมูลปัจจัย 3 ประการ คือ กิเลส กรรม วิบาก
82 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน