ข้อความต้นฉบับในหน้า
เมื่อมีจักขุวิญญาณเกิดขึ้นแล้ว ถ้าปราศจากสติก็มีโลภะอยากเห็น มีอุปาทานยึดมั่นว่า
เราเห็น ทำให้เกิดทุกข์ภัยไม่มีที่สิ้นสุด
2. โสตวิญญาณธาตุ
เป็นนามธรรม มีหน้าที่รับรู้เสียงเท่านั้น องค์ธรรมได้แก่ โสตวิญญาณจิต 2 ดวง คือ
ดวงบุญและดวงบาป
โสตวิญญาณธาตุ เป็นนามธรรมที่น้อมไปในทางอารมณ์ คือ เสียง เมื่อเสียงหรือได้ยิน
เสียง ก็ดับไปตามธรรมดาของสังขารธรรม หากผู้ไม่มีสติปัญญากำกับก็ยึดมั่นถือมั่น ส่วนผู้มี
สติปัญญากำกับก็ไม่ยึดมั่นถือมั่น
3. ฆานวิญญาณธาตุ
เป็นนามธรรม มีหน้าที่รับกลิ่น องค์ธรรมได้แก่ ฆานวิญญาณจิต 2 ดวง คือ ดวงบุญ
และดวงบาป เกิดขึ้นได้ เพราะมีคันธารมณ์กระทบกับฆานปสาท มีลมและมนสิการเป็น
สื่อสัมพันธ์ให้ฆานวิญญาณ ความรู้กลิ่นจึงเกิดขึ้นได้
ดังนั้น เมื่อสายลมพากลิ่นไปถูกประสาทจมูกพร้อมกับเอาใจใส่ การรับรู้กลิ่นก็เกิดขึ้น
เมื่อกลิ่นกับสายลมผ่านไปความรู้กลิ่นก็หายไปด้วยตามสภาพ
4. ชิวหาวิญญาณธาตุ
เป็นนามธรรม มีหน้าที่รับรู้รส ประกอบด้วยชิวหาวิญญาณธาตุ 2 ดวง คือ ดวงบุญ
และดวงบาป เกิดขึ้นได้เพราะมีรสารมณ์มากระทบชิวหาปสาท
5. กายวิญญาณธาตุ
เป็นนามธรรม มีหน้าที่รู้โผฏฐัพพารมณ์อย่างเดียว องค์ธรรมได้แก่ กายวิญญาณจิต
2 ดวง คือ ดวงบุญและดวงบาป ถ้าร้อน เย็น อ่อน แข็ง หย่อน ตึง ที่ดีละเอียดประณีตมาก
มากระทบ ก็เป็นโอกาสให้กายวิญญาณที่เป็นผลของบุญเกิดขึ้น ถ้าร้อน เย็น อ่อน แข็ง หย่อน
ตึง ที่หยาบคายมากระทบก็เป็นโอกาสให้กายวิญญาณที่เป็นผลของบาปเกิดขึ้นเปลี่ยนอยู่เสมอ
มีสภาพแตกดับเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะ หากไม่มีปัญญารู้ทันก็จะเกิดอุปาทาน ทำให้
เกิดทุกข์ไม่มีสิ้นสุด
142 DOU สมาธิ 8 วิ ปั ส ส น า กัมมัฏฐาน