ข้อความต้นฉบับในหน้า
เรียกกันตามโลกโวหารว่า “ความสุข” ซึ่งมีทั้งอย่างแท้และอย่างเทียม ความสุขที่เจือด้วยทุกข์
จัดเป็นสุขเทียม เช่น สุขจากการสนองความอยากได้ หรือสุขที่ได้จากกามคุณซึ่งท่านเรียกว่า
กามสุข
ความสุขที่แท้จริงหรือสุขที่ไม่เจือด้วยทุกข์นั้น ท่านมีคำเรียกว่า นิรามิสสุข เช่น สุขจาก
การบำเพ็ญคุณงามความดีต่าง ๆ เป็นสุขที่ละเอียดประณีตกว่า ยั่งยืนกว่า มีคุณค่าสูงกว่า
ในบรรดานิโรธ 5 นั้น นิโรธหรือนิพพานข้อที่ 1 นั้น เป็นของปุถุชนทั่วไป ข้อที่ 2 เป็น
ของผู้ได้ฌาน ข้อ 3-5 เป็นของพระอริยบุคคล นิโรธหรือนิพพานควรจะเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุด
ของชีวิตของคนทุกคน เพราะถ้าปราศจากจุดมุ่งหมายนี้เสียแล้ว มนุษย์จะว้าเหว่เคว้งคว้าง
หาทิศทางแห่งชีวิตที่ดำเนินไปสู่ความร่มเย็นไม่ได้
9.3.4 มรรคอริยสัจ
ในธัมมจักกัปปวัตนสูตรเรียกมรรคอริยสัจว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ แปลว่า
อริยสัจ คือ ทางปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ซึ่งหมายถึงอริยมรรคประกอบด้วยองค์ 8 หรือ
เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มัชฌิมาปฏิปทา (ทางสายกลาง หรือหลักปฏิบัติอันเป็นสายกลาง) ในที่นี้
กล่าวถึงคุณธรรม 8 ประการ คือ
1. สัมมาทิฏฐิ
ความเห็นชอบ
2. สัมมาสังกัปปะ
ความดำริชอบ
3. สัมมาวาจา
การพูดชอบ
4. สัมมากัมมันตะ
5. สัมมาอาชีวะ
6. สัมมาวายามะ
7. สัมมาสติ
8. สัมมาสมาธิ
การกระทำชอบ
การเลี้ยงชีพชอบ
ความเพียรชอบ
ความระลึกชอบ
ความตั้งใจมั่นชอบ
ความหมายขององค์ทั้ง 8 ของอริยมรรค คือ
1. สัมมาทิฏฐิ หมายถึง ความเห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เช่น เห็นว่าทำดีได้ดี
ทำชั่วได้ชั่ว บุญบาปมีจริง ชาติหน้ามี ชาติก่อนมี ในความหมายที่สูงขึ้นไป หมายถึง การเห็น
อริยสัจ 4 ครบถ้วนตามความเป็นจริง คือ เห็นอริยสัจซึ่งประกอบด้วย ญาณ 3 อาการ 12
บ ท ที่ 9 อ ริ ย สั จ 4
DOU 187