ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชl
ทุกข์ในอเวจีมหานรก
៩៦
ให้โทษใคร แต่พระเทวทัตก็ผูกพยาบาทจองเวรเรื่อยมา แม้ภพ
ชาติสุดท้ายท่านก็ยังชักชวนพระเจ้าอชาตศัตรูให้ทำปิตุฆาต คือ
ฆ่าพระเจ้าพิมพิสารผู้เป็นพระราชบิดาของพระองค์เองและว่าจ้าง
นายขมังธนูหลายคนให้ไปลอบปลงพระชนม์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แต่ไม่สำเร็จ ถึงกระนั้นพระเทวทัตไม่ละความพยายาม
วันหนึ่ง พระเทวทัตขึ้นไปบนยอดเขา แล้วกลิ้งก้อนหิน
ลงมาหมายจะให้ทับพระบรมศาสดา เศษหินได้กระเด็นมาถูก
พระพุทธองค์จนเกิดห้อพระโลหิตที่เรียกว่า โลหิตุปบาท ซึ่งถือว่า
เป็นกรรมหนักทีเดียว โทษของท่านปรากฏชัดเจนมากขึ้นตอนที่
ปล่อยช้างนาฬาคิรีให้วิ่งเข้าใส่พระผู้มีพระภาคเจ้า แต่ด้วย
กระแสแห่งเมตตาจิตของพระองค์ ทำให้ช้างหายตกมัน และ
หมอบลงต่อหน้าพระพุทธองค์
มหาชนได้เห็นเหตุการณ์นั้น ต่างรู้ว่าพระเทวทัตเป็น
ต้นเหตุของการคิดปลงพระชนม์ จึงไม่ยอมใส่บาตรพระเทวทัต
เมื่อพระเทวทัตเสื่อมจากลาภสักการะ จึงจําเป็นต้องเลี้ยงชีพ
ด้วยการหลอกลวง ท่านได้ไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา ทูลขอให้
คณะสงฆ์ปฏิบัติตามเงื่อนไข ๕ ประการว่า ภิกษุสงฆ์ควรอยู่ป่า
ตลอดชีวิต ควรเที่ยวบิณฑบาตตลอดชีวิต ควรถือผ้าบังสุกุล
ตลอดชีวิต ควรอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต ไม่ควรอยู่ในที่มุงบัง อีกทั้ง
ภิกษุสงฆ์ไม่ควรฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต ถ้าภิกษุใดฉันปลา